กลับมาอีกครั้งสำหรับโครงการดีๆ ที่จะปลูกฝังให้เหล่าน้องๆ รุ่นใหม่ ที่มีใจรักการทำธุรกิจ ได้สร้างรากฐานความรู้ที่มั่นคง และภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่ง! กับโครงการ AFTERKLASS Business CAMP ปีที่ 5 : Young BIZ Accelerator Camp โดยธนาคารกสิกรไทย ร่วมกับมูลนิธิเพาะพันธุ์ปัญญา ซึ่งก่อนหน้านี้น้องๆ ทั้ง 6 ทีมสุดท้าย ได้เข้าร่วม Workshop อัปสกิลช่วง 1st Dollar Stage ที่เน้นเรื่องของการลงไปสร้างยอดขายธุรกิจให้เกิดขึ้นจริง ซึ่งน้อง ๆ จะได้เรียนรู้ตั้งแต่การออกแบบแผนธุรกิจและการลงมือขายจริง โดยมีเมนเทอร์ธุรกิจจาก BASE Playhouse ดูแลให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด และการนำเสนอในเวทีสุดท้ายที่จะทําให้คณะกรรมการยอมรับในความสามารถของธุรกิจที่สร้างยอดขายให้เกิดขึ้นจริง ต้องบอกเลยว่าน้องๆ แต่ละทีม ทุ่มเทกันสุดตัว นำเอาความรู้ต่างๆ ที่ได้จากเรียนรู้ตลอดทั้งโครงการ อัปสกิลบิ้วท์ธุรกิจกันออกมาได้อย่างเก่งกาจและสร้างสรรค์จนกรรมการหนักใจกันเลยทีเดียว วันนี้ Mango Zero จะขอพาทุกคนบุกสนามประลองความรู้แห่งนี้ ลองมาดูกันว่าแต่ละทีมเก่งกาจขนาดไหน และน่าสนใจอย่างไรบ้าง ซึ่งแต่ละทีมก็ได้ทำการบ้านกันอย่างเต็มกำลัง บิ้วท์ธุรกิจให้เป็นรูปเป็นร่างให้ได้มากที่สุดสำหรับการนำเสนอในรอบไฟนอลนี้ เรียกได้ว่ากินกันไม่ลงเลยทีเดียว แต่ละทีมจะมีไอเดียอย่างไร มีแผนธุรกิจแบบไหนเข้าตาและสามารถต่อยอดในอนาคตได้อย่างไรบ้าง ไปดูกัน ! 📚 Terravision Team : SabaiGo มาเริ่มกันที่ทีมแรก ที่แม้จะเป็นการเปิดเวทีไฟนอลในครั้งนี้ แต่แทบจะไม่เห็นความกังวลหรือความตื่นเต้นเลยแม้แต่น้อยกับทีม “Terravision” ที่มาพร้อมกับ “SabaiGo” แพลตฟอร์มเชื่อมนักท่องเที่ยวกับชุมชนท้องถิ่นภาคใต้ ผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์และทริปที่ปรับแต่งได้ หลายๆ ครั้งเรามักจะเห็นแพลตฟอร์มท่องเที่ยวในไทยที่พยายามจะตีตลาดกลุ่มลูกค้าต่างชาติเสียมากกว่า แต่สำหรับ SabaiGo ต้องการจะเป็นแพลตฟอร์มท่องเที่ยวที่สอดรับกับความต้องการของคนไทยเองมากขึ้น พร้อมเพิ่มจุดเด่นในเรื่องของการเลือกและปรับแต่งทริปได้ด้วยตัวเอง สร้างประสบการณ์ที่หลากหลายให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น ต้องบอกเลยว่า SabaiGo จากน้องๆ ทีม Terravision เป็นหนึ่งในไอเดียที่เป็นประโยชน์อย่างมากในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทยที่ไม่ใช่แค่เฉพาะกลุ่มเป้าหมายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่ยังส่งเสริมให้คนไทยหันมาเที่ยวประเทศไทยมากยิ่งขึ้น 📚 DAY-1 Team : FastCare มาต่อกันที่ทีม “DAY-1” ที่เรียกได้ว่าเป็นทีมที่มองลึกถึงปัญหาของผู้สูงอายุในปัจจุบัน จนเกิดเป็น “FastCare” บริการผู้ดูแลผู้สูงอายุในการพาไปรักษาพยาบาล รับส่งดูแลตั้งแต่หน้าบ้าน แบบรายชั่วโมงและรายวัน “สังคมผู้สูงอายุ” ถือเป็นสภาพสังคมที่ประเทศไทยต้องพบเจอในปัจจุบัน ดังนั้นเมื่อผู้สูงอายุมากขึ้น ก็ต้องการคนดูแลอย่างใกล้ชิดมากขึ้น เพื่อที่จะคอยดูแลให้ผู้สูงอายุนั้นได้ดำเนินชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ “FastCare” จึงเป็นหนึ่งในบริการที่มีไอเดียที่ตอบโจทย์ในสังคมประเทศไทยในปัจจุบัน ด้วยกระบวนการง่ายๆ อย่างการเป็นตัวกลางผ่านผู้ว่าจ้างและผู้ดูแลให้สามารถติดต่อกันได้อย่างสะดวกสบาย และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ประเทศไทยมองหาเพื่อสอดรับกับสังคมในปัจจุบันที่เต็มไปด้วยผู้สูงอายุ 📚 Venture Team : Venture สำหรับทีมต่อมา ที่ทั้งชื่อทีมและธุรกิจที่นำเสนอนั้น เป็นชื่อเดียวกันให้จำได้ง่ายๆ กับ “Venture” ตลาดออนไลน์เพื่อสินค้าและบริการ VTuber พร้อมฟีเจอร์เชื่อมโยงการสื่อสารระหว่างศิลปินและลูกค้า VTuber ถือเป็นอีกความน่าสนใจที่แสดงให้เห็นถึงความเติบโตในด้านเทคโนโลยีของไทยไม่น้อย แต่ต้องบอกเลยว่ายังเป็นตลาดที่ค่อนข้างเฉพาะกลุ่ม ทำให้ช่องทางในการซื้อ-ขาย โมเดลหรืออำนวยความสะดวกอื่นๆ เพิ่มเติมนั้นยังหาได้ยาก ดังนั้นทีม Venture จึงมองเห็นช่องทางการทำธุรกิจตรงนี้ และนำมาต่อยอดด้วยคอนเซ็ปต์การเป็นตัวกลางในการซื้อขายโมเดล ทำการแมชชิ่งจากสิ่งที่ผู้ขายมี กับความต้องการของผู้ซื้อ เพื่อให้ทั้ง 2 ฝ่ายสะดวกสบายต่อการซื้อ-ขายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการสร้าง community ให้ตลาด VTuber นั้นเติบโตมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ถือเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรม VTuber ของไทย ที่เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในปัจจุบัน สะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายของประเทศไทยที่เปิดรับและตามทันทุกเทรนด์ใหม่ๆ อยู่เสมอ 📚 Umbrella Sink Team : เทวา (dheva) ถึงคราวผลิตภัณฑ์กันบ้างกับ “เทวา (dheva)” จากทีม “Umbrella Sink” ผลิตภัณฑ์ ยาดม (Premium Inhalers) หรูหราในดีไซน์เครื่องประดับที่สะท้อนกลิ่นเอกลักษณ์ของดอกไม้ไทยจากถิ่นกำเนิดเฉพาะ ด้วยวัสดุและดีไซน์คุณภาพ ถือว่าน่าสนใจมากเลยทีเดียว เพราะผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอครั้งนี้ ได้มีการทดลองผลิตออกมาเป็น Prototype จริง พร้อมทั้งแพ็คเกจที่ดีไซน์มาอย่างตั้งใจ สมกับคอนเซ็ปต์ความหรูหรา ที่ยังแฝงความเป็นไทยเอาไว้ได้อย่างลงตัว ซึ่งความพิเศษอยู่ที่วัสดุนั้นทำมาจากธรรมชาติ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม “เทวา (dheva)” จากทีม “Umbrella Sink” จึงเป็นหนึ่งในไอเดียที่สะท้อนให้เห็นวัตถุดิบทางธรรมชาติที่เพียบพร้อมของประเทศไทย ร่วมกับความคิดสร้างสรรค์ที่จะนำวัตถุดิบที่มีอยู่นั้น มาสรรสร้างให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติและยังคงเอกลักษณ์ของความเป็นไทยอีกด้วย 📚 Blockfruit Team : KeepFresh มาถึงอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่เรียกได้ว่าน่าสนใจไม่แพ้ทีมอื่นๆ กับ “KeepFresh” จากทีม “Blockfruit” ผลิตภัณฑ์เครื่องปั๊มเจลชะลอการสุก คงความสดให้ผลไม้ จากสารสกัดธรรมชาติ เพื่อครัวเรือนถึงธุรกิจผลไม้สด “KeepFresh” เป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์หลายกลุ่มเป้าหมายเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการใช้ภายในครัวเรือนเพื่อชะลอความสุกของผลไม้ที่ทานไม่ทัน หรือแม้แต่ธุรกิจผลไม้สด ที่ต้องใช้ผลไม้จำนวนมากๆ ต่อวัน บางครั้งก็เน่าเสียไปก่อนที่จะขายหมดจนเกิดเป็น Food Waste ผลิตภัณฑ์นี้ จะช่วยลดปัญหาเหล่านั้น ซึ่งนอกจากจะมีผลิตภัณฑ์ออกมาจริงแล้ว ยังมีผลแลปวิจัยรองรับผลิตภัณฑ์นี้ พร้อมผลทดลองการชะลอความสุกของกล้วยมาให้ชมกันบนเวทีอีกด้วย เป็นทีมที่เตรียมความพร้อมมาอย่างดี พร้อมอ้างอิงเพื่อให้แผนธุรกิจที่นำเสนอนั้นมีน้ำหนักมากขึ้น แถมไอเดียนี้ยังเป็นประโยชน์ต่อผู้คนในวงกว้าง ตั้งแต่ภายในครอบครัวเล็กที่ใช้ถนอมอาหาร ไปจนถึงอุตสาหกรรมอาหารที่จะทำให้วัตถุดิบต่างๆ ยังคงความสดใหม่ ลดปัญหาในเรื่องของขยะอาหาร หรือ Food Waste นั่นเอง 📚 Sang Khao Team : enev เดินทางมาจนถึงทีมสุดท้าย “Sang Khao” กับอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ “รองเท้า enev” รองเท้าแตะรัดส้นเพื่อสุขภาพที่ใช้ซังข้าวมาเป็นวัสดุส่วนหนึ่งในการผลิต เพิ่มมูลค่าเกษตรกรพร้อมดีไซน์ใช้งานจริง แน่นอนว่าในปัจจุบันที่ผู้คนนั้นให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น สินค้าเพื่อสุขภาพนั้นจึงเป็นหนึ่งในธุรกิจที่พร้อมจะเติบโตอยู่เสมอ โดยเฉพาะความพิเศษของรองเท้า enev ที่ใช้วัสดุส่วนหนึ่งจากธรรมชาติแล้วนั้น ยิ่งเพิ่มมูลค่าของสินค้านั้นได้มากขึ้นไปอีก เรียกได้ว่าสร้างประโยชน์ให้กับทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่สวมใส่จะได้สินค้าที่ดีต่อสุขภาพ รวมถึงเพิ่มมูลค่าให้กับเกษตกรและวัสุดธรรมชาติอย่าง ซังข้าว ได้ทั้งประโยชน์และความสวยงามพร้อมกันในผลิตภัณฑ์เดียว 📚 ต่อยอดทุกแพชชั่น รังสรรค์เส้นทางในอนาคต นอกจากจะได้เห็นความเก่งกาจ และไอเดียอันเปล่งประกายของน้องๆ ทั้ง 6 ทีมในรอบไฟนอลครั้งนี้ เรายังได้พูดคุยแบบ Exclusive กับ “คุณรวี อ่างทอง“ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายบูรณาการความยั่งยืนองค์การ ธนาคารกสิกรไทย ร่วมแชร์มุมมองของกิจกรรม AFTERKLASS Business Camp ปีที่ 5 นี้ พร้อมทั้งแผนในอนาคตสำหรับโครงการในครั้งต่อๆ ไป Q : ความเป็นมาของโครงการ AFTERKLASS ? โครงการ AFTERKLASS มีจุดประสงค์เพื่อให้เด็กรุ่นใหม่ มีความรู้ความเข้าใจในการบริหารจัดการด้านการเงิน เนื่องจากความรู้ด้านการเงินนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันและต่อยอดได้ในอนาคต โจทย์ของ AFTERKLASS จึงต้องเป็นการให้ความรู้ทางด้านการเงิน ซึ่งพอเป็นเรื่องการเงินแล้ว หลายๆ คนอาจจะมองว่ายังเป็นเรื่องไกลตัว AFTERKLASS จึงมีหน้าที่ทำเรื่องการเงินให้เข้าใจง่าย ประยุกต์ให้เหมาะสมกับเด็กๆ รุ่นใหม่ จึงเกิดเป็น Business Camp ที่เอาความรู้ทางการเงินไปเชื่อมกับแพชชั่นของน้องๆ เพราะปัจจุบัน เด็กรุ่นใหม่มีความสนใจในการเป็นเจ้าของธุรกิจจำนวนมาก จึงนำความสนใจเหล่านั้นมาตีแผ่ และนำเรื่องการเงินสอดแทรกเข้าไปประยุกต์ใช้ จึงเกิดเป็น AFTERKLASS Business Camp Q : ความแตกต่างของ AFTERKLASS ในปีนี้ ? ในปีก่อนๆ รูปแบบของแคมป์จะเป็นการให้น้องๆ ได้ลองเสนอไอเดียจากสิ่งที่สนใจ แล้วจบไปเพียงเท่านั้น แต่ในปีนี้ นอกจากจะได้ไอเดียแล้ว ยังได้มีโจทย์เพิ่มเติมในการคิดผลิตภัณฑ์ และมีการสร้างแผนธุรกิจเพื่อทดลองขายจริง (1st Dollar Stage) เพื่อให้แผนธุรกิจที่นำเสนอนั้น ได้ผ่านกระบวนการคิดอย่างรอบคอบจนถึงขั้นตอนการวางขายจริง ได้ทำการทดสอบกับกลุ่มเป้าหมาย นำผลตอบรับที่ได้ไปพัฒนาต่อเพื่อให้ผลิตภัณฑ์นั้นมีคุณภาพ สามารถเกิดเป็นธุรกิจได้จริง ซึ่งนอกจากวางแผนตลอดทั้งกระบวนการแล้ว ยังต้องคำนึงถึงเรื่องการเงิน ไม่ว่าจะความคุ้มค่า คุ้มทุน และการนำเม็ดเงินไปต่อยอด สอดรับกับจุดประสงค์หลักของโครงการนี้ นั่นจึงเป็นความท้าทายใหม่ๆ สำหรับน้องๆ ที่เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ Q : มุมมองในเรื่องของประโยชน์ที่น้องๆ ผู้เข้าร่วมได้รับ เรียกได้ว่าโครงการนี้ มอบสกิลหลายๆ อย่างให้กับน้องๆ ไม่ว่าจะเป็น Hard Skill ในเรื่องของความรู้ในการทำธุรกิจ ตั้งแต่ต้นจนจบ รวมถึงความรู้เรื่องการบริหารจัดการเงิน ซึ่งความรู้เหล่านี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ต่อได้ในอนาคต อีกทั้งในส่วนของ Soft Skill ต้องบอกเลยว่ากว่าจะมาถึงในวันไฟนอล น้องๆ ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์หลายๆ อย่างระหว่างทาง เพราะ AFTERKLASS ได้มีการจัด Workshop เตรียมความพร้อมให้น้องๆ ผู้เข้าร่วมโครงการ โดยจัดตามความสนใจของน้องๆ เผื่อให้ตอบโจทย์มากที่สุด เมื่อได้ความรู้แล้วลองทำจริง ก็จะยิ่งทำให้เกิดความเข้าใจมากขึ้น Q : อนาคตของโครงการ AFTERKLASS ต้องบอกเลยว่าจริงๆ แล้วทางโครงการได้มีการจัดกิจกรรมที่หลากหลายอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น Workshop ให้ความรู้ในทุกๆ เดือน โปรเจกต์ AFTERKLASS ExKlusive On Tour ที่ต้องการเปิดโลกให้กว้างขึ้น โดยการพาน้องๆ ไปเยี่ยมองค์กรที่ดำเนินธุรกิจที่น่าสนใจ หรือแม้แต่บอร์ดเกมการเงิน ที่ทำให้น้องๆ ได้มีแนวคิดด้านการบริหารจัดการเงินเพิ่มขึ้น ไปพร้อมๆ กับความสนุกสนาน ซึ่งในปีหน้า ก็จะมีการพัฒนาต่อไป รวมถึงอีกเป้าหมายหลักอย่างการช่วยเหลือสังคม ให้รู้เท่าทันในเรื่องของการเงิน ผ่านน้องๆ ที่ได้เรียนรู้และมีศักยภาพที่จะสานต่อความรู้เท่าทันในเรื่องนี้ให้กับสังคมในวงกว้างมากขึ้น เช่น การประกวดคลิปวิดีโอในการป้องกันภัยด้านการเงินให้ผู้สูงอายุ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งความตั้งใจจะเกิดขึ้นในอนาคตอย่าง การแนะแนวอาชีพ ด้วยการจัดคลินิกปรึกษาความต้องการของน้องๆ วัยมัธยม ในเรื่องของอาชีพที่ต้องการจะทำในอนาคต เนื่องจากสิ่งที่น้องๆ คิด กับความเป็นจริงบางครั้งอาจจะแตกต่างกัน หากน้องๆ ได้รับคำปรึกษาและแนะนำอย่างถูกวิธี ก็จะทำให้น้องๆ เติบโตอย่างดีในเส้นทางอนาคต ทั้งนี้คุณรวียังได้ฝากถึงน้องๆ ที่สนใจในโครงการ AFTERKLASS ปีต่อๆ ไปอีกด้วยว่า “AFTERKLASS มีความพยายามและความตั้งใจที่จะให้น้องๆ ได้รับความรู้อย่างเต็มที่ และภูมิคุ้มกันที่ทางการเงินแข็งแกร่ง ดังนั้นอยากให้น้องๆ ได้ลองเข้ามารับประสบการณ์ดีๆ ที่มีประโยชน์ เพื่อนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในอนาคตต่อไป” สำหรับโครงการ AFTERKLASS ในปีหน้าจะเป็นอย่างไร มีอะไรที่แปลกใหม่และน่าสนใจบ้าง ติดตามข้อมูลและข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.afterklass.com แล้วพบกันกับโครงการดีๆ แบบนี้ได้อีกในปีหน้าน้า ~