category ไขข้อข้องใจ ว่าด้วยเรื่องลิขสิทธิ์เพลง

Writer : Patta.pond

: 6 สิงหาคม 2563

จริงหรือไม่ที่เขาว่า เพื่อนกินหาง่าย เพื่อนแบ่งลิขสิทธิ์หายาก หลายคนสงสัยว่าการทำเพลงหนึ่งเพลงกับเพื่อน ต้องแบ่งค่าลิขสิทธิ์กันยังไง ใครต้องจ่ายอย่างไรบ้าง วันนี้ Mango Zero มีคำตอบ แล้วจะได้ไม่ต้องเลิกคุยกับเพื่อนทั้งอำเภอเพื่อค่าลิขสิทธิ์ตัวเดียวอีกต่อไป

โดยส่วนใหญ่แล้ว เพลงทุกเพลงมักมีลิขสิทธิ์ หากไม่ใช่ของค่ายที่นักร้องสังกัดอยู่ ก็เป็นของศิลปินที่แต่งเนื้อร้อง ทำนองด้วยตัวเอง ดังนั้นนำการเพลงไปใช้ไม่ว่าจะเป็นแบบรวมกันสั้นๆ หรือใช้แค่เอาทำนอง หรือเนื้อร้องต่างก็ถือว่าเป็นผิดลิขสิทธิ์ทั้งสิ้น สำหรับการจ่ายค่าลิขสิทธิ์ก็มีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับการนำไปใช้งาน และตามที่เจ้าของลิขสิทธิ์คิด

ลิขสิทธิ์เพลงแบ่งเป็นประเภทใดบ้าง

เพลงหนึ่งเพลงแยกได้เป็นหลายสิทธิ์ หากมีคนหลายคนร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานโดยไม่มีข้อผูกมัดต่อกัน

  • หากเป็นคนแต่งเนื้อร้องทำนองเพลง ถือว่าเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เนื้อร้องทำนองเพลง
  • หากเป็นคนเรียบเรียงประสานเพลง ถือว่าเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์งานเรียบเรียงประสานเพลง
  • หากเป็นคนร้องเพลง ถือว่าเป็นเจ้าของสิทธินักแสดง (การขับร้องเพลง)
  • หากเป็นเจ้าของค่ายเพลง ผู้จัดทำซีดี วีซีดีเพลงนั้น ถือว่าเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์งานสิ่งบันทึกเสียงหรืองานโสตวัสดุ(ซีดีเพลง วีซีดี ดีวีดีคาราโอเกะ)

ถ้าเราร่วมกันร้องเพลงกับเพื่อน ใครจะได้ค่าลิขสิทธิ์ อัตราส่วนเท่าไหร่

เมื่อคนสองคนทำเพลงร่วมกัน เจ้าของลิขสิทธิ์มักขึ้นอยู่กับสัดส่วนตามที่ทั้งสองฝ่ายกำหนด และต้องดูว่าหลักฐานในการลงทุนคืออะไร หากเป็นเสียงร้อง ถือเป็นการลงทุนด้วยแรงนั่นเอง

นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดในกรณีอื่นๆ ดังนี้

  • หากเป็นสัญญาจ้างให้แต่งเพลง ลิขสิทธิ์ถือเป็นเจ้าของบริษัท โดยกฎหมายไม่ได้บังคับว่าต้องทำเป็นสัญญาหนังสือ
  • หากนักแต่งเพลง ถือเป็นพนักงานของบริษัทที่ได้รับค่าจ้างเป็นรายเดือน และได้แต่งเพลงให้กับบริษัท โดยไม่มีข้อตกลงเกี่ยวกับงานลิขสิทธิ์ กรณีนี้ลิขสิทธิ์เนื้อร้องและทำนอง จะเป็นของผู้แต่งตามกฎหมาย แต่บริษัทสามารถนำเพลงดังกล่าวไปจัดจำหน่ายหรือแสดงคอนเสิร์ตได้ และเมื่อมีการผลิตซีดี วีซีดี เจ้าของลิขสิทธิ์ตามกฎหมายก็คือบริษัทนั่นเอง
  • หากบริษัท ไปว่าจ้างคนอื่นให้แต่งเนื้อร้องและทำนองเพลงให้ เพื่อให้ศิลปินในสังกัดร้อง โดยทำเป็นสัญญาว่าจ้างกับนักแต่งเพลง กรณีนี้ถือเป็นการแต่งเพลงภายใต้สัญญาว่าจ้าง ดังนั้นบริษัทจะเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เนื้อร้องและทำนองเพลงตามกฎหมาย
  • หากทำสัญญาโอนงานลิขสิทธิ์ให้กับบริษัท แต่ไม่ได้ระบุระยะเวลาการโอนไว้ ลิขสิทธิ์ในงานแต่งจะกลับมาเป็นของผู้แต่งเพลงเมื่อครบกำหนด 10 ปี นับตั้งแต่วันทำสัญญาโอน
  • หากผู้แต่งเพลง ทำสัญญาซื้อขายลิขสิทธิ์เพลงกับบริษัท ซึ่งกฎหมายลิขสิทธิ์ไม่ได้กำหนดเรื่องการซื้อขายไว้ (มีเพียงกรณีการอนุญาตกับการโอนงานลิขสิทธิ์เท่านั้น) ในเคสนี้ต้องพิจารณาเนื้อหาของสัญญาว่าเป็นการอนุญาตให้ใช้งานเพลงหรือโอนลิขสิทธิ์เพลง

ต้องมีการทำสัญญาเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรไหม

การจะทำเป็นลายลักษณ์อักษรนั้น ขึ้นอยู่กับว่าจะทำเป็นสัญญาอะไร เช่น หากเป็นสัญญาอนุญาตใช้ลิขสิทธิ์ สามารถตกลงกันได้ปากเปล่าเลย แต่ถ้าเป็นสัญญาโอนลิขสิทธิ์ก็ต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษรขึ้นมา

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปรียบเทียบสัญญาลิขสิทธิ์ได้ ที่นี่ 

ที่มา ipthailand,คู่มือลิขสิทธิ์เพลง

 

 

 

Bangkok Idol Festival: Guide Book [Tossa Girl]

Bangkok Idol Festival: Guide Book [Tossa Girl]


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save