หน้าฟีดข่าวตอนนี้คงจะคุ้นตา คุ้นหูกันมาบ้างว่า Elon Musk นักธุรกิจเปลี่ยนโลกผู้สร้างสรรค์ SpaceX (บริษัทเอกชนบริษัทแรกที่ปล่อยจรวดขึ้นสู่อวกาศ) , Tesla Motors (บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับการยอมรับว่าสมบูรณ์แบบที่สุด) รวมถึงเป็นผู้ริเริ่ม Paypal (บริษัทการเงินออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จ) และ บริษัทในเครืออีกหลากหลายอย่าง ได้ยื่นความช่วยเหลือ 13 หมูป่าที่ติดถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย โดยขอเวลา 8 ชั่วโมง ในการสร้างแคปซูลกู้ภัยจากเทคโนโลยี SpaceX ซึ่งได้ทำการคิดและประดิษฐ์ เพื่อนำมาช่วยเหลือผู้ประสบภัยดังกล่าว รวมทั้งส่งทีมวิศวกรจากบริษัท SpaceX และ Boring Co. ซึ่งมีความเชี่ยวชาญทางด้านการขุดอุโมงค์ มายังประเทศไทย ความช่วยเหลือของ Elon Musk ทำให้บางคนที่ไม่รู้จักเขามาก่อน ตามหาประวัติว่าเป็นใคร มาจากไหน นวัตกรรมสร้างสรรค์นี้เป็นอย่างไร ซึ่งสิ่งที่เราได้เรียนรู้จากเขาคือ เขาเป็นที่คนคิด และทำเลย ศึกษาทำความเข้าใจกับปัญหา คิด และ พร้อมลงมือปฏิบัติอย่างทันที ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ดีมากของผู้ที่กล้าเปลี่ยนโลกอย่างเขา ผู้ที่ไม่กลัวต่อปัญหาและอุปสรรคใดๆ และ นี่คือ วิธีคิดและแก้ไขเมื่อเจอกับปัญหาตามแบบฉบับของ Elon Musk Elon Musk คือใคร Elon Musk นักธุรกิจผู้เปลี่ยนแปลงโลก เจ้าของนวัตกรรมสุดล้ำ อย่าง SpaceX บริษัทเอกชนรายแรกที่ปล่อยจรวดขึ้นสู่อวกาศ , Tesla Motors ผู้นำการผลิตรถยนตร์พลังงานไฟฟ้าที่สมบูรณ์แบบที่สุด , ผู้ริเริ่ม PayPal บริษัทการเงินออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จ (ปัจจุบันขายให้ Ebay) , Hyperloop ระบบขนส่งความเร็วสูง และเครื่องบินใบพัดขับเคลื่อนไฟฟ้าเหนือเสียงแบบขึ้นลงทางดิ่ง และ เขายังเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างภาพยนตร์ IRon Man นำไปสร้างตัวละครโทนี่ สตาร์ก เขาเป็นลูกครึ่งแคนาดา-อเมริกัน-แอฟริกาใต้ เกิดที่ประเทศแอฟริกาใต้ในปี 1971 พ่อของเขามีอาชีพเป็นวิศวกรเป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้เขาสนใจเทคโนโลยี จบการศึกษาด้านฟิสิก์และเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ปริญญาตรี 2 ใบ ถ้าจะบอกว่าเขาคนนี้ มีความฝันว่า สักวันเขาจะสร้างจรวด สร้างรถยนตร์ไฟฟ้า ระบบขนส่งความเร็วสูง ซึ่งในตอนนี้เกิดขึ้นจริงแล้ว และ ในอนาคตข้างหน้าต้องการอพยพคนไปดาวอังคาร โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อปกป้องมนุษย์ชาติในกรณีที่โลกไม่สามารถเป็นที่อยู่สำหรับมนุษย์ได้อีกต่อไป ก็คงจะเป็นไปได้ด้วยความพยายามและความเป็นอัจฉริยะของเขา ความคิด การแก้ไขปัญหา รวมถึงการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ของเขา จึงเป็นสิ่งที่น้อยคนที่จะทำได้ กว่าเขาจะมาถึงวันนี้เขาต้องฝ่าฟันอุปสรรค มีความพยายามอดทน กล้าเปลี่ยนแปลง และ มีความคิดที่แตกต่างเพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ จนทำให้เขาประสบความสำเร็จแบบอย่างวันนี้ได้ Step การคิดและแก้ไขปัญหาแบบ Elon Musk Elon Musks มีวิธีการง่ายๆ 4 ขั้นตอน เมื่อเขาเจอปัญหาที่คิดว่ายาก และ ต้องคิดพร้อมทั้งแก้ไขปัญหาแบบง่ายๆ ปัญหาคืออะไร และ ตั้งสมมุติฐาน ขั้นพื้นฐานของการคิดและแก้ไขปัญหา ต้องเริ่มต้นจาก ระบุให้ได้ว่า ปัญหานั้นคืออะไร และ กำหนดสมมุติฐานของปัญหา โดยเริ่มจากการตั้งคำถามเกี่ยวกับปัญหา หรือ สถานการณ์ที่เกิดขึ้น คาดเดาสิ่งที่น่าจะเกิดขึ้น พร้อมสร้างความรู้ใหม่ และ แนวทางแก้ไขใหม่ๆ ตั้งแต่จุดเริ่มต้น วิเคราะห์ปัญหาจากข้อมูลพื้นฐาน ภาษาเข้าใจง่ายคือ วิเคราะห์ปัญหาจากปัญหา อย่างแท้จริง นั้นคือ การเข้าใจปัญหาว่า เกิดขึ้นได้อย่างไร องค์ประกอบที่ทำให้เกิดขึ้น วิธีการง่ายๆ คือ คุณอาจจะวาดแผนผังต้นไม้ขึ้นมา ตรงกลางวาดเป็นปัญหา และ แยกย่อยไปในสิ่งที่ทำให้เกิดปัญหา และ สิ่งที่สามารถแก้ปัญหาได้ เป็นการแตกย่อยความคิด ทำให้เราเข้าใจปัญหาได้มากยิ่งขึ้น ว่าอะไรเป็นตัวแปรที่ทำให้เกิด และ สิ่งที่แก้ไขปัญหานั้นได้ อย่างประโยคที่เขาเคยพูดไว้ว่า “It is important to view knowledge as sort of semantic tree. Make sure you understand the fundamental principles, ie the trunk and big branches, before you get into the leaves/details or there is nothing for them to hang on to.” แปลว่าโดยรวมว่า สิ่งที่สำคัญคือการเข้าใจหลักการพื้นฐานของปัญหา ก่อนที่จะเข้าไปสู่รายละเอียดปลีกย่อยของปัญหานั้น เคยมีคนบอก Elon Musk ว่า “แบตเตอรี่มีราคาแพงมาก ต้นทุนมีราคาถึง 600 เหรียญต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง และ มันคงจะไม่มีทางที่จะดีขึ้นในอนาคต (ยังคงแพงอยู่แบบนี้)” สิ่งที่คุณต้องทำหลังจากนั้น คือ การตั้งคำถามว่า ส่วนประกอบของแบตเตอรี่คืออะไร ? ค่าของตลาดหุ้นเป็นยังไง? แล้วมีทางไหนที่เราจะได้แบตเตอรี่ถูกกว่านั้น? พอเมื่อคุณรู้ว่าส่วนประกอบต่างๆของมัน คุณเพียงแค่หาวิธีที่นำมันมาประกอบเข้าด้วยกันในรูปของเซลล์แบตเตอรี่ และ ทำให้สามารถมีแบตเตอรี่ในราคาที่ถูกกว่านั้นเอง แทนที่เราจะเชื่อในสิ่งที่คนทั่วไปยอมรับ แต่เราต้องค้นหาคำตอบใหม่ๆ ให้กับปัญหาของเราอย่างฉลาดและสร้างสรรค์ สร้างวิธีแก้ไขปัญหาใหม่ๆ เมื่อเรารู้ถึงปัญหา และ วิธีแก้ไขปัญหาแล้ว จากข้อมูลพื้นฐาน ความรู้ และ การเก็บข้อมูลของเรา เราก็จะสามารถสร้างวิธีแก้ไขปัญหาใหม่ๆ ได้ ใช้ความรู้ที่มี ข้อมูลพื้นฐานต่างๆ มาปรับใช้ รวมถึงจากประสบการณ์ในการเกิดปัญหาในครั้งก่อนๆ ด้วย ยกตัวอย่างการตั้งสมมุติฐานของ Elon Musk “การเติบโตของธุรกิจ จะต้องเสียเงินจำนวนมาก” อะไรที่คุณต้องการเพิ่มกำไรจากธุรกิจ? “ฉันต้องการขายสินค้าและบริการให้กับลูกค้าจำนวนมากขึ้น” แล้วจะต้องเสียเงินจำนวนมากแก่ลูกค้ารายใหม่หรือไม่? “ไม่จำเป็น แต่ฉันอาจจะเข้าถึงลูกค้ารายใหม่ด้วยวิธีการอื่นที่ไม่เสียเงินมาก” คิดอย่างแตกต่าง เมื่อเราเผชิญกับปัญหาที่ซับซ้อน การกลับมาคิดถึงพื้นฐานในการเกิดปัญหา เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการช่วยแยกแยะสิ่งต่างๆ ที่ทำให้เราสับสนออกไปได้ ลองสังเกตุเวลาที่เรา คิดแก้ไขปัญหาไม่ออก ฟุ้งซ่านกับปัญหาที่เกิดขึ้น แต่เมื่อเวลาที่เราตั้งสติ และ ค่อยๆ คิดถึงเหตุและผลของปัญหา ผลลัพธ์ที่ได้ดีเสมอ เราจะมีสมาธิ สติ ในการคิดและแก้ไขปัญหาเหล่านั้น เมื่อเราย้อนกลับมาถึงแก่นของปัญหา สร้างสมมุติฐานของปัญหา การแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์จะตามมา เราจะมีหลายวิธี หลายช้อยท์ในการแก้ปัญหา คิดให้แตกต่าง นอกกรอบแต่ต้องมีเหตุและผล แล้วจะพบทางแก้ไขที่เหมาะที่สุดกับปัญหาที่เผชิญ “I think it is possible for ordinary people to choose to be extraordinary.” “ฉันคิดว่า มันเป็นไปได้สำหรับคนธรรมดาที่เลือกจะเป็นคนพิเศษ” “The first step is to establish that something is possible then probability will occur.” “ขั้นตอนแรกคือการสร้างบางสิ่งให้เป็นไปได้ และ ทำให้มันเกิดขึ้น” “I could either watch it happen or be a part of it.” “ฉันอาจจะดูสิ่งนั้นเกิดขึ้น หรือ เป็นส่วนหนึ่งของมัน” ความพยายาม คิด ลงมือแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังและรวดเร็ว และ พร้อมที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ให้เกิดขึ้น จึงเป็นสิ่งที่ทำให้ Elon Musk ประสบความสำเร็จในวันนี้ และ เขาก็ไม่หยุดที่จะพัฒนาสิ่งที่เค้าคิด และ เขามีสิ่งหนึ่งที่เขาเชื่อตลอดว่า ทุกสิ่งเป็นไปได้เสมอ