เมื่อพูดถึงแหล่งรวมความสวยงามแบบไทยในกรุงเทพมหานครฯ เชื่อว่าที่แรกที่หลายคนนึกถึงต้องเป็นย่านพระนครอย่างแน่นอน แม้ในตอนนี้จะมีสถาปัตยกรรมใหม่เข้ามาปะปนบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้มนต์เสน่ห์ตั้งแต่อดีตจางหายไป แต่ยังช่วยขับความสวยงามให้เข้ากันอย่างลงตัวอีกต่างหาก วันนี้ Mango Zero จะพาทุกคนไปพบกับประสบการณ์ใหม่ เรียนรู้ความสวยงามในอดีต ที่ยังคงมนต์เสน่ห์มาจนถึงปัจจุบัน พร้อมกับพาไปลองร้านอาหารเจ้าเด็ดที่อร่อยสมคำร่ำลือมาตั้งแต่รุ่นปู่! วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร มาเริ่มกันที่ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร พระอารามหลวงประจำรัชกาลที่ 5 นับเป็นอารามหลวงสุดท้ายที่เป็นวัดประจำรัชกาลตามโบราณราชประเพณี เป็นศาสนสถานที่ผสมผสานกับศิลปะตะวันตกแบบโกธิก ตกแต่งอย่างสวยงามวิจิตรด้วยกระจกสีหม่นเรียบ บรรยากาศเงียบสงบ ให้ความรู้สึกเย็นใจ แพร่งภูธร เดินถัดจากวัดราชบพิธฯ มาอีกนิดก็จะเจอกับย่านเก่าแก่ที่ถูกกล่าวขานว่า “แพร่งภูธร” ชุมชนไทยโบราณที่เต็มไปด้วยของกินเจ้าเด็ดทั้งคาวหวาน ไม่ว่าจะเป็นก๋วยเตี๋ยวเนื้อกิมทอง แล้วจะตามด้วยข้าวเหนียวมะม่วงหอมหวานมันเกินห้ามใจที่ร้านก.พานิช หรือจะเป็นไอศกรีมโฮมเมดรสชาติดีที่ร้านณัฐพรไอศกรีมก็ย่อมได้ เรียกได้ว่ามีเสน่ห์เป็นของตัวเองทุกร้าน เลือกกันไม่ถูกเลยทีเดียว ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร อีกหนึ่งสถานที่ที่ขึ้นชื่อว่าอยู่คู่บ้านคู่เมืองไทยมานาน และมีความศักดิ์สิทธิ์ไม่แพ้ที่อื่นใด ก็คือศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานครนั่นเอง ตั้งอยู่ใกล้สนามหลวง ตรงข้ามกับวัดพระแก้ว (วัดพระศรีรัตนศาสดาราม) โดดเด่นในด้านขอพรเสริมดวงเรื่องหลักชัยให้กับชีวิต แต่เรื่องสถาปัตยกรรมก็สวยงามไม่แพ้กัน ศาลาศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานครนี้ มีลักษณะตามแบบอยุธยาในอดีต เป็นอาคารเครื่องปูนทรงยอดปรางค์ มีเครื่องมุงประดับกระเบื้องเคลือบ ให้ความรู้สึกร่มเย็นแม้จะเป็นวันที่แดดแรงก็ตาม พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ถัดมาที่อีกฟากของสนามหลวง เป็นแหล่งรวมศิลปะวัตถุและเรื่องราวความเป็นมาของเมืองไทย นั่นก็คือพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ พระนครนั่นเอง มีนิทรรศการเกี่ยวกับชาติไทยในอดีต และวัตถุโบราณหลายชิ้นที่เคยเห็นในหนังสือเรียนประวัติศาสตร์ ถูกจัดแสดงให้ทุกคนได้ชมของจริง ภายใต้แสงไฟและการจัดที่ช่วยขับวัตถุให้โดดเด่นและมีมนต์ขลังมากยิ่งขึ้น พิพิธภัณฑ์มีหลายส่วนด้วยกัน สามารถเข้าชมทั้งหมดได้โดยเสียค่าตั๋วเพียงแค่ 30 บาทเท่านั้น ภายในมีพระราชวังบวรสถานมงคล เป็น “วังหน้า” ในสมัยก่อน พระตำหนักแดง ที่ประทับพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อครั้งทรงพระเยาว์ โรงราชรถที่จัดแสดงพระราชยานในงานพระเมรุของเจ้าที่เราเคยเห็นทางโทรทัศน์ และส่วนอื่นๆ ให้เราเห็นความสวยงามของศิลปะและสถาปัตยกรรมไทยอย่างใกล้ชิด วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร (ภูเขาทอง) ใครว่าไปวัดแล้วจะมีแค่การสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือไหว้พระขอพรเท่านั้น ที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร หรืออีกชื่อว่า ภูเขาทอง เป็นภูเขาจำลองสูง ยอดบนสุดเป็นเจดีย์ที่ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ นอกจากจะให้สักการะแล้ว ยังสามารถชมวิวกรุงเทพมหานครฯ แบบ 360 องศาได้อีกด้วย ซึ่งการจะไปถึงยอดบนสุดได้นั้น ต้องเดินขึ้นบันไดทั้งหมด 344 ขั้น ระหว่างทางมีระฆังเรียงรายให้ตีเสียงดังก้องกังวาน และมีต้นไม้น้อยใหญ่ประดับรายทางให้ดูอย่างเพลินตา เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ธรรมดาและควรค่าแก่การไปเยือน วัดราชนัดดารามวรวิหาร (โลหะปราสาท) หากเป็นเวลากลางวัน อาจจะเดินหรือขับรถผ่านไปอย่างไม่รู้สึกอะไร แต่เมื่อพระอาทิตย์ใกล้ตกดินแล้วได้มีโอกาสไปแถววัดราชนัดดารามวรวิหาร หรือโลหะปราสาทล่ะก็ รับรองว่าต้องมีเผลอตกตะลึงในความสวยงามกันบ้าง โลหะปราสาทแห่งนี้เป็นองค์เดียวในประเทศไทย ถือเป็นองค์ที่ 3 ของโลก ที่ยอดปราสาทประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ปัจจุบันได้รับการบูรณะยอดมณฑปด้วยการปิดทองแล้วทั้งหมด ที่ด้านข้างเป็นลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ประดับด้วยดอกไม้หลากสีสันสวยงาม เหมาะกับการไปเยือนยามเย็นเป็นอย่างยิ่ง ถนนข้าวสาร สถานที่ที่ไม่เคยหลับใหล และพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างคึกคักอยู่เสมอ มีกราฟิตี้จากศิลปินนิรนามหลากหลายแนว เป็นความสวยงามอีกแบบหนึ่งของสตรีทอาท นอกจากนั้น หากนักท่องเที่ยวกำลังมองหาโรงแรมดีไซน์เก๋ ที่มีสถาปัตยกรรมแบบชิคๆ ในย่านนี้ก็มีโรงแรมที่ตอบโจทย์อย่างโรงแรมไอบิส สไตล์ กรุงเทพ ข้าวสาร เวียงใต้ ซึ่งถือเป็น economy design hotel ที่เป็นแบรนด์สากลแบรนด์แรกและแบรนด์เดียวในย่านเมืองเก่า ด้านในโรงแรมมีที่จอดรถในร่มที่สามารถรองรับรถยนต์ได้ถึง 150 คัน เปิดบริการ 24ชั่วโมง อยากรู้ว่าจะชิคขนาดไหน ก็สามารถดูได้ที่ http://bit.ly/2lWkfDo ซึ่งที่ด้านหน้าของโรงแรมยังมี สตรีทส์บาร์แอนด์บิสโทร มีอาหารหลากหลายเมนูทั้งไทยและเทศ และร้านเบเกอรี่ที่อร่อยเกินกว่าใคร โดยเฉพาะไอศกรีมโฮมเมดที่ไม่ว่าใครได้ลองก็ต้องติดใจ สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ http://bit.ly/2kS8L3x
