ไม่กี่วันมานี้ ใครที่เป็นคอหนัง คอซีรีส์ ที่ติดตามข่าวคงจะสะเทือนใจไม่น้อย เมื่อ NETFLIX ประกาศกฎใหม่ ใครที่ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน จะไม่สามารถใช้งานพร้อมกันได้ หรือถ้าจะใช้งาน ต้องเสียค่าบริการเพิ่ม 99 บาท ซึ่งถือเป็นข่าวร้ายของสายแชร์ สายหารค่าสมาชิก เลยก็ว่าได้ โดยหลังมาตรการใหม่นี้ถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปต่าง ๆ นานา ยิ่งไปกว่านั้น เหล่าบรรดาสายแชร์ได้เกิดความสงสัยและตั้งข้อคำถาม เกี่ยวกับระบบการบังคับใช้กฎใหม่นี้ ว่ากรณีของตนจะต้องจ่ายเพิ่มรึเปล่า ? หรือถ้าเพิ่ม มีการคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มยังไง ? วันนี้แมงโก้เลยสรุปรายละเอียดมาให้เข้าใจง่าย ๆ ว่าการใช้งานแบบไหนที่ต้องเสียเงินเพิ่มบ้าง และการใช้งานแบบไหนที่ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม ไว้เผื่อเป็นทางรอดของใคร ๆหลายคนที่เป็นสายแชร์กันจ้าา แบบไม่ต้องจ่ายเพิ่ม สำหรับตี้หารสายประหยัด ที่ไม่ต้องการจ่ายเงินเพิ่ม เราอยากจะบอกว่าคุณ มี ทางรอดแค่ 2 กรณีนี้เท่านั้น คือ กรณีที่ 1 : ทุกคนดูในอุปกรณ์เคลื่อนที่ เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต โน้ตบุ๊ก ซึ่งไม่เคยล็อกอินใน TV มาก่อน กรณีที่ 2 : มีแค่ 1 คนเท่านั้นที่ล็อกอินใช้งานผ่าน TV หรือ กล่องรับสัญญาณ โดยคนที่เหลือดูในอุปกรณ์เคลื่อนที่ ซึ่งจะไม่สามารถสลับล็อกอินใน TV ได้ นั้นแปลว่าถ้านาย A เข้าล็อกอินดูใน TV แล้ว คนอื่นจะหมดสิทธิ์ในการล็อกอินใน TV ที่บ้านทันที แบบที่ต้องจ่ายเพิ่ม มีการดูผ่าน TV/Android Box ที่ไม่ได้ต่อ Wi-Fi เดียวกัน 2 เครื่องขึ้นไป ตัวอย่างเช่น นาย A ล็อกอินผ่าน TV อยู่แล้ว นาย B มาล็อกอินผ่าน TV เพิ่ม NETFLIX จะนับ TV นั้นเป็นบ้านใหม่ทันที และต้องจ่ายค่า Extra Member เพิ่มบ้านละ 99 บาท โดยจะจำกัดจำนวน TV สูงสุดแค่ 3 บ้าน เท่านั้น ซึ่งหมายความว่า ถ้าเราอยากหาร 4 คน ต้องมีคนนึงที่ยอมเสียสละดูในสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต (ในกรณีที่ทั้ง 3 คนดูใน TV)
