อันยองฮาเซโย~ วันนี้แมงโก้ขอพาทุกคนไปแลนด์ดิงที่เกาหลีแบบง่ายๆ ในฉบับที่ไม่ต้องจองตั๋ว ไม่ต้องขึ้นเครื่องบิน เพียงแค่กดลิฟต์ปุ่มเดียวก็ถึงที่หมาย เพราะล่าสุดโรงแรมสินธร มิดทาวน์ กรุงเทพฯ วีนแยทท์ คอลเล็คชั่น ได้ยกเกาหลีมาตั้งไว้บนดาดฟ้าชั้น 31 เป็นที่เรียบร้อย! พบกับ “ANJU Korean Rooftop Bar” ร้านอาหารเกาหลีพร้อมรูฟท็อปบาร์ เสิร์ฟความอร่อยแบบจัดเต็ม ควบคู่กับทิวทัศน์สุดลูกหูลูกตาจากใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ในยามค่ำคืน ไม่ว่าคุณจะกำลังมองหาร้านอาหารมื้อเย็นที่เสิร์ฟความอร่อยชุดใหญ่ให้อิ่มท้อง หรือต้องการเพียงร้านนั่งชิล จิบเครื่องดื่มเบาๆ พร้อมเสียงเพลงเพื่อส่งท้ายวัน ที่นี่ก็สามารถเป็นให้ได้ทั้งสองสิ่งนั้นตามที่ใจต้องการ โดยแต่ละเมนูที่เสิร์ฟในร้าน ล้วนปรุงขึ้นโดยฝีมือของ “หัวหน้าเชฟยองแดชิม” เชฟชื่อดังจากเกาหลี ผ่านวิธีการผสมผสานรสชาติของเกาหลีดั้งเดิมเข้ากับเทคนิคอาหารแบบใหม่ๆ จนกลายเป็นอาหารเกาหลีสไตล์โมเดิร์นที่เมื่อได้ชิมจะต้องตาลุกวาวเป็นประกายอย่างแน่นอน~ งานนี้แมงโก้ก็ไม่พลาดรวบรวมเมนูเด็ดๆ มาเสิร์ฟให้ถึงที่ มีทั้งอาหารคาว ของหวาน และเครื่องดื่มชวนชื่นใจ มาดูกันว่าแต่ละเมนูจะมีลูกเล่นและรสชาติอย่างไร ขอเตือนว่าอ่านไประวังท้องร้องไม่รู้ตัวด้วยนะ~! แวะ Check-in ที่มุมถ่ายรูปสุดชิค ก่อนไปอิ่มอร่อยกับสารพัดเมนูที่ทางร้านเตรียมมาเสิร์ฟ อย่าลืมแวะเซลฟี่ Check-in กับลิฟต์สุดชิคตัวนี้! ถือเป็นมุมถ่ายรูปเก๋ๆ ที่ใครผ่านมาเห็นก็ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแชะสักรูป เมื่อเก็บภาพสวยๆ กันจนพอใจแล้ว ก็ไปเพลิดเพลินกับอาหารในร้านและวิวบนดาดฟ้ากันได้เลย~ อิ่มท้องกับอาหารเกาหลีสไตล์โมเดิร์น เริ่มแรกกันด้วยเมนูอาหารคาวสุดละมุนอย่าง “Sous-vide Wagyu Beef Shank” เสิร์ฟเนื้อวากิวส่วนขา ตุ๋นในน้ำซุปกลมกล่อมแบบซูวี บอกเลยว่าเนื้อนุ่มลิ้นจนแทบจะละลายในปาก ยิ่งกินกับน้ำซุปและผักที่ตุ๋นมาคู่กันยิ่งฟินเกินต้าน! ไปกันต่อกับเมนูที่สายเนื้อห้ามพลาด กับ “Beef Oyster Blade Steak” สเต๊กเนื้อวากิวส่วนใบพายฉ่ำๆ ทานคู่กับน้ำมันงา ซอสเกาหลี และเครื่องเคียง เรียกได้ว่าเป็นการผสมผสานที่ลงตัวแบบสุดๆ และอีกหนึ่งเมนูแปลกใหม่ที่น่าจะถูกปากถูกใจใครหลายๆ คน นั่นคือ “Crispy Kanimiso Gimbap” คิมบับแบบกรอบราดด้วยมันปูรสชาติหอมมัน เสิร์ฟเป็นชิ้นเล็กๆ พอดีคำ ใครได้ลองเป็นต้องตกหลุมรักอย่างแน่นอน ยังไม่พอ! พบกับเมนู “Yellow Tail Gamtae Ssam” ปลาฮามาจิสดเนื้อเด้งห่อกับสาหร่ายกัมเต้ เสริมรสชาติด้วยพริกเม็กซิกันเปญโญและกิมจิ บอกเลยว่าเพียงคำเดียวก็ครบรสแบบสุดๆ ใครเป็นสายของดองเลิฟเว่อร์การันตีเลยว่าจะต้องชอบ~ ทาสรักหม่าล่าเลี้ยวมาทางนี้ เพราะที่นี่เขามี “Mala Chili Garlic Chicken” หรือไก่หม่าล่าพริกกระเทียมอยู่ด้วย สำหรับรสชาติก็จะเริ่มด้วยความหวานๆ นัวๆ ตามสไตล์ไก่เกาหลี ปิดท้ายด้วยความเผ็ดชาปลายลิ้นจากรสหม่าล่า ใครที่มองหาอะไรมาตัดเลี่ยน แนะนำให้จิ้มเลือกเมนูนี้ได้เลย ปิดท้ายด้วยอาหารพื้นเมืองของเกาหลีอย่าง “ต็อกบกกี” ในเมนู “Sausage Ragout Tteokbokki” แต่ส่งตรงจากครัว “ANJU” ทั้งทีก็ต้องมีลูกเล่นสักหน่อย ต็อกบกกีที่นี่จึงเสิร์ฟพร้อมไส้กรอกหมูราดซอสมะเขือเทศ เสริมด้วยความหอมจากชีสพาร์เมซาน นับเป็นผสานรสชาติของเกาหลีและอิตาลีเข้าด้วยกันอย่างลงตัว รับรองว่าต็อกบกกีจานนี้จะไม่เหมือนที่ทุกคนเคยกินอย่างแน่นอน เพลิดเพลินกับของหวานหลากหลายรูปแบบ กินอาหารคาวเสร็จแล้วก็ต้องมีของหวานตามมาสมทบ! ซึ่งในครั้งนี้ “ANJU Korean Rooftop Bar” ก็จัดมาให้ลอง 2 เมนู 2 สไตล์ เริ่มกันที่เมนูกินเพลินอย่าง “Cro-Boong & Croissant Ice Cream” ครัวซองต์รูปปลา สอดไส้ถั่วแดงและโมจิเหนียวหนึบหนับ ทานคู่กับไอศกรีมแล้วได้รสชาติหวานเย็นชื่นใจแบบขั้นสุด หรือถ้าใครเป็นสายผักผลไม้ ต้องลองของหวานสุดแปลกใหม่จานนี้ กับ “To-Ba-Bing” บิงซูโหระพาหวานอ่อนๆ แถมเย็นชื่นใจ เสิร์ฟพร้อมมะเขือเทศเนื้อฉ่ำเต็มปากเต็มคำ เสริมด้วยคาเวียร์น้ำมันมะกอก พร้อมน้ำมันมะกอกสำหรับราดเพิ่มรสชาติ ต้องยกให้เมนูนี้เป็นมิติใหม่ของการเติมความหวานเลย~ ผ่อนคลายกับเครื่องดื่มที่มีเอกลักษณ์ อิ่มท้องกับอาหารคาวและเพลิดเพลินใจกับของหวานกันไปแล้ว ก็ได้เวลาของการจิบเครื่องดื่มเบาๆ พร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศกรุงเทพฯ ในยามค่ำคืนกันบ้าง โดยเครื่องดื่มของร้าน “ANJU Korean Rooftop Bar” มีทั้งแบบม็อกเทล (No Alcohol) และแบบค็อกเทล (Alcohol) ให้เลือกสั่งกันได้ตามความชอบ มาดูเมนูม็อกเทลสำหรับสายชิลกันก่อน โดยวันนี้ขอพาไปชิม “KIMCHI” ซึ่งผสานรสชาติของกิมจิ สตรอว์เบอร์รี่ และโซดาออกมาได้ลงตัวเกินคาด! กลายเป็นความหวานปนซ่า บอกเลยว่าอร่อยสุดๆ หรือถ้าใครชอบรสชาติกลมกล่อมหอมนัวแบบข้าวโพดชีส ขอแนะนำให้ลองเป็น “CORN CHEESE” และสำหรับสายผลไม้ต้องเลือกเป็น “BAESUK” น้ำลูกแพร์ปั่นรวมกับผลไม้อื่นๆ ให้รสชาติหวานถูกใจแน่นอน ปิดท้ายด้วยเมนูค็อกเทลสำหรับสายปาร์ตี้ ท้าให้ลองกันเลยกับ “Mugunghwa” เครื่องดื่มที่ได้แรงบันดาลใจจากดอกไม้ประจำชาติเกาหลี บอกเลยว่าแก้วนี้นอกจากจะอร่อยแล้วยังออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกมาได้สวยหรู เหมาะกับสายถ่ายรูปสุดๆ นอกจากนี้ยังมี “Hallabong” ค็อกเทลที่รังสรรค์จากรสชาติส้มชื่อดังของเกาหลี และ “UMEJITO” ค็อกเทลเหล้าบ๊วย เพียงจิบเดียวก็ชวนให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าเสมือนได้ชาร์จพลัง เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับทริปแลนด์ดิงที่เกาหลีแบบง่ายๆ ไม่ต้องใช้ตั๋ว ไม่ต้องขึ้นเครื่องบิน เพียงเตรียมท้องไปให้พร้อมรองรับความอร่อยก็พอ หากใครอยากลองสัมผัสประสบการณ์ทานอาหารเกาหลีรสชาติใหม่ๆ ควบคู่กับการจิบเครื่องดื่มชิลๆ พร้อมชมวิวกรุงเทพฯ แบบนี้ ก็สามารถไปลองได้ที่ร้าน ANJU Korean Rooftop Bar” โรงแรมสินธร มิดทาวน์ กรุงเทพฯ วีนแยทท์ คอลเล็คชั่น ชั้น 31 เลยนะ!
