ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย และนักร้องเรียนในตำนาน บุกไปถึง กสทช. เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนต่อรักษาการเลขาธิการ กสทช. ให้ตรวจสอบการกลับมาทำหน้าที่ผู้ประกาศข่าวของ ‘สรยุทธ สุทัศนะจินดา’ โดยสาเหตุที่ศรีสุวรรณ ได้ให้เหตุผลในการร้องเรียนเพื่อตรวจสอบนักเล่าข่าวคนดังที่หวนคืนสู่การเป็นผู้ประกาศข่าวดังไว้ในเฟซบุ๊ค ศรีสุวรรณ จรรยา บางช่วงบางตอนระบุว่า ‘การที่นักเล่าข่าวคนดังกล่าวถูกต้องโทษและจำคุกในคดีอาญาอันเกี่ยวกับการสนับสนุนเจ้าพนักงานของรัฐกระทำผิดละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ด้วยการยักยอกเงินค่าโฆษณาเกินเวลาในรายการเป็นเวลา 6 ปี 24 เดือน ถือได้ว่าเป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมแห่งวิชาชีพ’ ‘จึงไม่สมควรอย่างยิ่งที่บุคคลดังกล่าว จะกลับมาทำหน้าที่อยู่หน้าจอโทรทัศน์อีกครั้ง เพราะบุคคลที่ทำหน้าที่พิธีกรหรือนักเล่าข่าว ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับสังคม โดยมีประวัติที่ไม่ด่างพร้อย’ ในเฟซบุ๊คของศรีสุวรรณ ได้ยกรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย มา 2 ข้อเพื่อขอความเห็นชอบจาก กสทช. ครั้งนี้ต่อการทำงานของสรยุทธ์ ดังนี้ รัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 34 ประกอบมาตรา 35 ระบุในข้อยกเว้นเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนไว้ว่าต้องไม่ก่อให้เกิดการขัดต่อศีลธรรมอันดีและขัดต่อจริยธรรมวิชาขีพแห่งตนด้วย ข้อบังคับสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ว่าด้วยจริยธรรมแห่งวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ พ.ศ.2553 อ้างอิงจากข้อ 10 ความว่า “ต้องไม่ประกอบอาชีพ หรือวิชาชีพ หรือดำเนินธุรกิจ หรือประพฤติตนอันเป็นการฝ่าฝืนต่อศีลธรรมอันดี หรือเป็นการเสื่อมเสียต่อศักดิ์ศรีและเกียรติคุณของผู้ประกอบวิชาชีพข่าว” ด้วยเหตุผลดังกล่าว ศรีสุวรรณ ในฐานะตัวแทนจากสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงต้องนำความไปร้องเรียนต่อ กสทช. ให้ดำเนินการตรวจสอบและวินิจฉัยเกี่ยวกับการกลับมาเล่าข่าวของนายสรยุทธ ก็ต้องมาดูกันว่า 1 พฤษภาคมที่สรยุทธ จะคืนจอเล่าข่าวแล้วจะมีการเคลื่อนไหวอะไรอีกบ้าง ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงต้องนำความไปร้องเรียนต่อ กสทช. ให้ดำเนินการตรวจสอบและวินิจฉัยว่า การกลับมาเป็นพิธีกรเล่าข่าวหน้าจอโทรทัศน์ของผู้ที่เคยต้องโทษในคดีอาญา ยังจะสามารถทำได้หรือไม่ อย่างไร และสังคมไทยโดย กสทช.จะสร้า