จากข่าวที่มีการประกาศให้ผ้าอนามัยแบบสอดเป็นเครื่องสำอาง ทำเอาหลายคนสงสัย ว่าไม่ได้ใช้ประทินผิว หรือเพื่อความสวยงามอะไร แล้วทำไมถึงจัดเป็นเครื่องสำอางกันนะ มาฟังคำตอบกัน นิยามเครื่องสำอาง คือวัตถุที่มุ่งหมายสำหรับใช้ทา ถู นวด โรย พ่น หยอด ใส่ อบ หรือกระทำด้วยวิธีอื่นใด ต่อส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายเพื่อความสะอาด ความสวยงาม หรือส่งเสริมให้เกิดความสวยงามและรวมตลอดทั้งเครื่องประทินผิวต่าง ๆ ด้วย แต่ไม่รวมถึงเครื่องประดับและเครื่องแต่งตัวซึ่งเป็นอุปกรณ์ภายนอกร่างกาย ในปัจจุบันมีผ้าอนามัย 2 ชนิดที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย คือ ผ้าอนามัยสำหรับใช้ภายนอก หรือแบบแผ่น และผ้าอนามัยแบบสอด ซึ่งจริง ๆ แล้วทั้ง 2 ชนิดถูกจัดเป็นเครื่องสำอาง ตั้งแต่ปี 2528 เพราะตรงกับนิยามของเครื่องสำอาง ต่อมาในปี 2558 มีการแก้ไข พ.ร.บ.เครื่องสำอาง เป็น วัตถุที่มุ่งหมายสําหรับใช้ทา ถู นวด โรย พ่น หยอด ใส่ อบ หรือกระทําด้วยวิธีอื่นใดกับส่วนภายนอกของร่างกาย ด้วยนิยามนี้ ส่งผลให้ “ผ้าอนามัยแบบสอด” ไม่ตรงกับคำนิยามของเครื่องสำอางอีกต่อไป แต่ผ้าอนามัยแบบแผ่น ยังคงเป็นเครื่องสำอางอยู่ ดังนั้นจึงต้องออกกฎกระทรวงเพื่อกำหนดให้ผ้าอนามัยแบบสอด เป็นเครื่องสำอาง เพื่อควบคุมความปลอดภัยในการผลิตและจำหน่ายนั่นเอง แต่จะไม่มีการจัดเก็บภาษีผ้าอนามัยในอัตราภาษีสินค้าฟุ่มเฟือย หรือถึง 30% เพราะผ้าอนามัย เป็นหนึ่งในรายการสินค้าควบคุมของกระทรวงพาณิชย์ จึงจะถูกจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ตามราคาสินค้าเช่นเดียวกับสินค้าชนิดอื่นๆ สำหรับข้อควรระวังในการใช้ผ้าอนามัยแบบสอด คือควรเปลี่ยนทุก ๆ 4-8 ชั่วโมง และไม่ควรใส่ไว้ในช่องคลอดเกิน 8 ชั่วโมงเพราะอาจทำให้ติดเชื้อได้ ถ้าหากมีอาการผิดปกติขณะใช้ เช่น มีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศีรษะ ควรหยุดใช้และไปพบแพทย์ แล้วสาว ๆ คิดว่าใช้ผ้าอนามัยแบบไหนสะดวกกว่ากัน? ที่มา pptvhd36 pptvhd36 2 pptvhd36 3