วันที่ 17 พฤศจิกายน 2563 กระทรวงคมนาคม ได้ประกาศ “กำหนดอัตราค่าบริการอื่น กรณีการจ้างโดยมีบริการพิเศษ” สำหรับรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน (TAXI-METER) ที่จดทะเบียนในเขตกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2563 โดยที่เป็นการแก้ไขปรับปรุงอัตราค่าบริการอื่นให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีการปรับค่าบริการอื่นกรณีการจ้างโดยมีบริการพิเศษดังนี้ 1.เก็บค่าบริการบรรทุกสัมภาระที่มีขนาดความกว้าง ความยาว หรือความสูงด้านใดด้านหนึ่งไม่เกินกว่ายี่ยิบหกนิ้วขึ้นไป ให้เรียกเก็บค่าบริการชิ้นละไม่เกิน 20 บาท 2.เก็บค่าบริการบรรทุกสัมภาระที่มีขนาดความกว้าง ความยาว หรือความสูงด้านใดด้านหนึ่งไม่เกินยี่สิบหกนิ้วเกินกว่าสองชิ้น ให้เรียกเก็บค่าบริการตั้งแต่ชิ้นที่สามขึ้นไป ในอันตราชิ้นละไม่เกิน 20 บาท ไม่นับรวมกับสัมภาระตาม (1) 3.เก็บค่าบริการบรรทุกสัมภาระเป็นอุปกรณ์การกีฬาจ าพวก ถุงกอล์ฟ รถจักรยาน วินด์เซิร์ฟ หรือเครื่องดนตรี ซึ่งมีขนาดตั้งแต่ห้าสิบนิ้วขึ้นไป ให้เรียกเก็บค่าบริการในอัตราชิ้นละไม่เกิน 100 บาท 4.เก็บค่าบริการบรรทุกสัมภาระเป็นสินค้า สิ่งของ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ ที่บรรจุกล่อง และที่มิได้มีการบรรจุกล่อง แต่มีการมัดรวมหรือหีบห่อรวมกันไว้ ซึ่งมีขนาดตั้งแต่ ห้าสิบนิ้วขึ้นไป ให้เรียกเก็บค่าบริการในอัตราที่บรรจุกล่อง มัดรวมหรือหีบห่อชิ้นละไม่เกิน ๑๐๐ บาท โดยทางกระทรวงคมนาคมได้นิยาม “สัมภาระ” ว่า สินค้า สิ่งของ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ ที่มีการบรรจุกล่อง กระเป๋า มัดรวม หรือบรรจุหีบห่อ และที่ไม่ได้มีการบรรจุแต่มีขนาด ปริมาณ ความกว้าง ความสูง เกินกว่าเป็นสัมภาระติดตัว แต่ไม่ให้หมายความรวมถึงรถเข็นหรืออุปกรณ์สำหรับคนพิการ ผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วย เช่น วีลแชร์ ไม้เท้า ส่วนคำว่า “สัมภาระติดตัว” ได้ให้ความหมายว่า สัมภาระที่อยู่ในความดูแลของคนโดยสารระหว่าง การเดินทาง เช่น กระเป๋าถือ กระเป๋าคอมพิวเตอร์ เป้สะพายหลัง และให้หมายถึงของใช้ส่วนตัว ที่ติดตัวคนโดยสารด้วย
