เมื่อหลายวันก่อน มีการประกาศตามหาวัสดุกัมมันตรังสี “ซีเซียม-137” เครื่องวัดทางอุตสาหกรรมที่สูญหายไปจากบริษัทเนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด จากจังหวัดปราจีนบุรี เมื่อวานนี้ (19 มี.ค) ได้มีการลงพื้นที่ตรวจสอบจนเจอเข้ากับสารกัมมันตรังสี ซีเซียม 137 ณโรงงานหลอมเหล็กอีกแห่งหนึ่ง ความคืบหน้าเช้าวันนี้ ผู้ว่าฯ ปราจีนบุรีและเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งโต๊ะแถลงในเวลา 11.00 น. โดยมีลงรายละเอียดอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากเหตุที่เกิดขึ้นยังไม่มีสาเหตุแน่ชัดว่าวัสดุดังกล่าวหายไปได้อย่างไร จวบจนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่ยืนยัน วัสดุดังกล่าวถูกหลอมไปแล้วหรือยัง มีเพียงการพบกัมมันตรังสีซีเซียม-137 ปนเปื้อนในฝุ่นโลหะในโรงงานแห่งหนึ่งบริเวณใกล้เคียงจุดที่สูญหาย ซึ่งสารซีเซียม-137 ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ จึงมีการ “คาดว่า” อาจจะถูกหลอมไปแล้ว ทั้งนี้ กิตติ์กวิน อรามรุญ หน.ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสี กล่าวว่าจากการเก็บตัวอย่างสิ่งแวดล้อมบริเวณโดยรอบโรงงานในระยะ 5 กิโลเมตรด้วยเครื่องมือที่ได้คุณภาพ พบว่า “สารซีเซียม-137 ถูกควบคุมและจำกัดในพื้นที่เฉพาะ ไม่ได้มีการฟุ้งกระจายออกไป” รวมถึงการตรวจสอบร่างกายของพนักงานในโรงงาน และฝุ่นแดงปนเปื้อนที่ได้ส่งออกไปชลบุรี ก็ส่งคนไปตรวจสอบแล้วว่าปราศจากซีเซียมปนเปื้อนในฝุ่นเหล็ก ปลอดภัยแน่นอน ด้านตำรวจที่รับแจ้งความตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค. ได้จัดชุดสืบสวนออกไป และตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในบริษัท แต่สามารถเก็บภาพได้เพียงบางส่วนเท่านั้น ยังอยู่ในขั้นตอนสืบสวนต่อไป ส่วนโรงงานเจ้าของวัสดุกัมมันตรังสีที่แจ้งเหตุล่าช้า เบื้องต้นจะมีความผิดตามมาตรา 100 พระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์ต้องโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ในแง่สุขภาพ นายแพทย์ประจำจังหวัด แจ้งการดำเนินงานขั้นต่อไป โดยพนักงานในโรงงานหลอมเหล็ก 70 คนถือเป็นกลุ่มเสี่ยงทั้งหมด จะมีการตรวจร่างกายพื้นฐาน เฝ้าระวังไว้ในช่วง 6 เดือน-1 ปีหลังจากนั้นจะประเมินชุมชนรอบข้างถึงข้อกังวลต่างๆ จากนี้ขอให้ประชาชนทุกคนติดตามข่าวสารต่อไปอย่างใกล้ชิด เพราะหากมีการรั่วไหลแพร่กระจายของสารซีเซียม-137 ไปในวงกว้าง ย่อมส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และชีวิตของพวกเราอย่างแน่นอน ที่มา : ไลฟ์สดข่าวช่อง8