หลายอย่างบนโลกใบนี้ล้วนแล้วแต่มีปริศนาที่คลุมเครือที่รอการไขปริศนา ไม่ต้องไปมองหาที่ไหนไกลถึงขั้นใต้ทะเลลึก 10 กิโลเมตร หรือบนอวกาศที่แสนไกลหลายล้านปีแสง ผู้หญิงนี่แหละก็มีปริศนาดำมืดที่น่าค้นหาไม่แพ้การตามไขความลับของจักรวาล ผู้ชายอย่างอาจมีคำถามที่อยากจะได้คำตอบจากผู้หญิงมากมาย แต่ไม่กล้าถาม จะด้วยเพราะความเขินอาย (ป๊อดนั่นแหละสั้นๆ) ความไม่สนิท หรือความกลัว เราในฐานะผู้ชายก็สงสัยเรื่องบางอย่างแต่ไม่กล้าถามผู้หญิงเหมือนกัน วันนี้เราจะไปหาคำตอบเหล่านั้นมาให้ 1. เวลามีผู้ชายแอบมองรู้ตัวไหม รู้ตัวแน่นอน ผู้หญิงเกิน 90% รู้ตัวแน่นอน เพราะว่าผู้หญิงจะมีระยะสายตาที่มองเห็นได้กว้างกว่าผู้ชาย และผู้หญิงจะมีเซนส์รู้ได้ว่ากำลังถูกมองอยู่โดยเพศตรงข้าม ก็ต้องเนียนทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไม่หันกลับไปมอง เพราะไม่ค่อยรู้สึกโอเคเท่าไหร่ถ้ามีใครก็ไม่รู้เดินมาแล้วบอกว่า “ขอเบอร์หน่อยได้ไหมครับ” หรือ “ขอไลน์หน่อยได้ไหมครับ” ทำแบบนี้กินแห้วแน่นอน 2. แยกเฉดสีเครื่องสำอางออกได้ยังไง ผู้หญิงทุกคนที่แต่งหน้าจะมีทักษะในการแยกเฉดสีของเครื่องสำอางออกว่าสีไหนบ้าง แต่ไม่ได้จำชื่อสีได้แม่นขนาดนั้นเพราะเฉดสีมันเยอะ การที่สีเครื่องสำอางมีเฉดเยอะก็เพราะว่าเวลาเราต้องใช้แต่งหน้าทำงาน หรือไปไหนก็ตามจะมีเฉดสีแต่ล่ะแบบ เช่นแดง ก็จะมีทั้งแดงแจ๋ แดงเข้ม แดงอ่อน การใช้งานก็ต่างกัน ถ้าแดงมากๆ ก็อาจจะเป็นงานแซ่บๆ แต่ถ้าแดงมีความเข้มนิดนึงก็อาจจะเป็นงานเบาๆ 3. ทำไมต้องจริงจังกับวันครบรอบต่างๆ บางคนก็ไม่ซีเรียสเรื่องนี้ แต่ถ้าเป็นวันเกิดผู้หญิงจะมองว่านี่คือเรื่องสำคัญเพราะเป็นวันของเธอให้เธอหน่อยเถอะ หรือในกรณีที่หากผู้ชายใส่ใจวันสำคัญของผู้หญิงก่อนในช่วงแรก แล้วปีต่อมาลืมหรือไม่ใส่ใจสิ่งที่เกิดขึ้นคือผู้หญิงจะเริ่มคิดมากว่าทำไมไม่เหมือนเดิม เนื่องจากคาดหวังไปแล้ว 4. เวลาต้องการอะไรทำไมผู้หญิงไม่บอกตรงๆ ผู้หญิงต้องการคนเอาใจ ถ้าผู้ชายไม่นำเสนอผู้หญิงก็จะไม่กล้าพูดตรงๆ มาก่อนว่าต้องการอะไร แต่อาจจะมีเกริ่นๆ เป็นสัญญาณให้รู้ว่าต้องการอะไร เช่นสมมติเกริ่นๆ ว่าอยากจะกินโจ๊กก็จะเกริ่นๆ มาก่อนนิดนึง ถ้าผู้ชายรู้ว่าอยากกิน เขาก็จะถาม ซึ่งผู้หญิงจะรู้สึกประทับใจมากกว่าที่จะบอกไปตรงๆ ว่าอยากกินอะไร หรืออยากได้อะไร 5. ทำไมต้องมีเครื่องสำอางเต็มโต๊ะ การซื้อของสำอางของผู้หญิงมีหลายเหตุผลทั้งซื้อมาใช้ ซื้อมาเก็บ ซื้อเพราะมีคนบอกว่าดีก็ซื้อ ทั้งหมดที่มีจะใช้หรือเปล่าไม่รู้แต่มีเยอะแล้วรู้สึกอุ่นใจกว่า ก็เหมือนสายลับ Kingsman ที่มีอาวุธต่างๆ ให้เลือกใช้มากมายนั่นแหละมีปืนยาว ปืนสั้น ไม่พอยังมีปืนในรูปแบบกระเป๋าเดินทางอีก นั่นแหละไม่ต่างกัน 6. ทำไมมีเสื้อผ้าเต็มตู้แต่ชอบบอกว่าไม่มีอะไรจะใส่ การใส่เสื้อผ้าซ้ำๆ ผู้หญิงจะรู้สึกว่าเขินยิ่งมีคนมาทักว่าใส่ชุดซ้ำใช่จะเสียเซลฟ์มากๆ แม้ไม่มีคนสังเกต แต่เธอก็จะรู้สึกอยู่ดีว่ามันซ้ำ อีกอย่างเสื้อผ้าผู้หญิงบางตัวใส่ได้เมื่อเดือนก่อน ถ้าเอามาใส่วันนี้ก็เชยไปแล้ว ดังนั้นเวลาเปิดตู้เสื้อผ้ามาเห็นเยอะแยะนั้นน่ะมันใส่แล้วเชยจริงๆ ก็เลยไม่เลือกมาใส่ไง ขณะที่ผู้ชายเสื้อยืดกับกางเกงยีนก็ใส่ได้ตลอดทั้งปีแล้ว 7. ทำไมเดินชอปปิ้งนานๆ ได้โดยไม่เหนื่อย เดินชอปปิ้งมันเพลิน ก็คงเหมือนกับผู้ชายที่เดินไปในดงสินค้าที่ตัวเองชอบได้ทั้งวันไม่เบื่อนั่นแหละ ความรู้สึกใกล้เคียงกัน 8. เวลาใส่กระโปรงสั้นรู้สึกเขินไหม ไม่รู้สึกเขิน โดยเฉพาะคนที่ใส่กระโปรงหรือกางเกงขาสั้นจนชิน ยิ่งถ้ามีความมั่นใจถ้าขาเราสวยใส่อะไรก็สวย อีกอย่างผู้หญิงก็จะเซฟตัวเองอยู่แล้วในระดับหนึ่งดังนั้นผู้ชายสายหื่นอย่าหวังเลย 9. การที่ผู้หญิงคุยกับผู้ชายบ่อยๆ หมายความว่าอะไร ผู้หญิงเขาแค่อยากจะได้มีเพื่อนผู้ชายเพิ่มขึ้นเท่านั้นไม่ได้คิดอะไรเกินเลยมากกว่านี้ เพราะมีแต่เพื่อนผู้หญิงมันก็น่าเบื่อ ถ้าสมมติผู้หญิงคนนั้นเขาคิดอะไรกับคุณจริงๆ เขาจะส่งสัญญาณบอกตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ไม่ต้องให้มโนไปเองหรอก 10. ทำไมบ่นว่าอ้วนแต่ยังกินอยู่ ก็…ของกินบนโลกนี้มันอร่อยนี่นา 11. คำว่าอ้วนสำหรับผู้หญิงนี่คือยังไง บางคนอาจไม่เข้าใจว่าทำไมผู้หญิงที่รูปร่างเล็กถึงบ่นว่าอ้วน ผู้ชายก็จะแซวว่าอ้วนตรงไหนผอมจะตาย แต่ผู้หญิงจะสังเกต และใส่ใจรายละเอียดกับรูปร่างตัวเองเสมอ ถ้าน้ำหนักขึ้นเสื้อผ้าที่เคยใส่สบายจะส่งสัญญาณบอกเองว่ามันใส่ไม่สบายแล้วนะ นั่นแหละจึงเป็นที่มาของการบ่นว่าอ้วนขึ้นโว้ย! นี่ไม่ใข่การเรียกร้องความสนใจ แต่มันอ้วนขึ้นจริงๆ 12. อยากผอมแต่ทำไมไม่อยากออกกำลังกาย ก็…มันเหนื่อยน่ะ 13. ขอนิยามของคำว่า “กินอะไรก็ได้” หน่อย คำว่า “กินอะไรก็ได้” สำหรับผู้หญิง หมายถึงอยากให้คุณเป็นคนเลือกว่าอยากจะกินอะไร ให้เสนอมาแล้วถ้าเธอไม่สนใจเดี๋ยวตัดช้อยส์ออกเอง แต่บางครั้งคำว่า “กินอะไรก็ได้” ของเธอน่ะจริงๆ มีความหมายว่ากินอะไรก็ได้เลยจริงๆ อยากกินอะไรบอกมาแล้วจูงมือพาไปเลย จบ! 14. ทำไมชอบถามว่าเอาอันไหน ทั้งที่ในใจมีคำตอบอยู่แล้ว ผู้หญิงเป็นเพศที่ต้องการความชัดเจน ความชัวร์ว่าสิ่งที่เธอเลือกน่ะถูกต้องกับสิ่งที่คิดไหมเลยถามออกไปเพื่อต้องการเสียงยืนยัน แล้วถ้าบังเอิญผู้ชายเดาถูกว่าเธอเลือกอะไรเธอจะยิ่งรู้สึกดี แต่ถ้าผู้ชายเลือกในสิ่งที่ตรงกันข้ามเธอก็ไม่สะท้านเท่าไหร่ก็แค่ตัดช้อยส์ที่คุณเลือกนั้นแหละออกไปแล้วก็ยังยืนยันคำตอบเดิม 15. ทำไมไม่ชอบให้เห็นหน้าสด ไม่มั่นใจในหน้าตาของตัวเองตอนไร้เครื่องสำอาง กลัวผู้ชายตกใจ หรืออย่างน้อยไม่แต่งหน้าให้มีคิ้วก็เหมือนกัน สำหรับผู้หญิงคิ้วก็เหมือนมงกุฎ 16. เวลาถามว่า “เราอ้วนไหม?” ต้องการคำตอบอะไร ผู้หญิงบางคนต้องการคำตอบที่ถูกใจ นั่นหมายถึงถ้าไม่อ้วนก็บอกว่ายังไม่อ้วน แต่ถ้าสมมติว่าอ้วนขึ้นแล้วจริงๆ สิ่งที่ผู้ชายต้องตอบก็คือรักษาน้ำใจที่สุด อาจจะเป็นการส่งสัญญาณบางอย่างให้ผู้หญิงรู้ก็ได้ว่าอ้วนขึ้นนะ อย่างละมุนละม่อน เช่น เธอยังไม่อ้วนหรอก แต่มากกว่านี้อาจจะอ้วนแล้ว ไปออกกำลังกายไหม ไปวิ่งไหม อะไรแบบนี้ มีศิลปะในการเจรจา มีวาทะศิลป์หน่อย รอดอยู่แล้ว 17. เวลาใส่เสื้อเปิดหลัง ใส่เสื้อชั้นในยังไง ไม่ใส่ไง…แต่ใส่เสื้อชั้นในที่เป็นซิลิโคนแล้วเอาไปแปะตรงหน้าอกแทนก็จะดูเซ็กซี่ขึ้น 18. ปวดประจำเดือนทำไมต้องเหวี่ยง ฮอร์โมนมันแปรปรวน บวกกับอากาศปวดท้องเมนส์รุมเร้ามันเลยหงุดหงิด แต่หลังจากนั้นเดี๋ยวก็หายเองแหละ เข้าใจกันหน่อย 19. ทำไมดูละคร หรือรายการแล้วต้องด่าด้วย ผู้ชายดูบอลแล้วบ่นไหมล่ะ นั่นแหละเหมือนกันด่าจังเลย ปากจัดเหมือนกันนะเราน่ะผู้ชายน่ะ 20. ทำไมเซนส์แรงจัง ผู้หญิงเป็นพวกเหนือมนุษย์ผู้ชายมีพิรุจอะไรเราจับได้หมด แต่จริงๆ แล้วเพราะผู้หญิงเป็นเพศที่ลงรายละเอียดมากๆ ถึงขนาดเห็นอะไรผิดปกตินี่รู้ได้เลยว่าผู้ชายต้องมีอะไรปิดบังแน่ๆ หึหึหึ
