5 ข้อต้องระวัง ในวันที่เราต้อง Work From Home เจ้าไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่หรือ COVID-19 ระบาดหนักจนทำให้เราต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตกันใหม่หมด เช่นต้องเปลี่ยนจากทำงานที่ออฟฟิศมาเป็นที่บ้าน ตามนโยบาย Work From Home ของหลายๆ บริษัทที่ไม่อยากให้เราๆ ต้องออกมาเผชิญความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสที่นอกบ้าน แต่เพราะบ้านไม่ใช่สถานที่….เดี๋ยว! ทำไมจะไม่ใช่ล่ะ บ้านคือสถานที่น่ะถูกแล้ว แถมยังเป็นที่ๆ ปลอดภัยที่สุดในเวลานี้ด้วย หลายคนที่ต้อง Work From Home เลยเผลอลืมระมัดระวังตัวเองในบางเรื่อง เช่นลืมไปว่าสุดท้ายเราก็ยังต้องทำงานที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จทันเวลาและได้คุณภาพเหมือนเดิม แม้จะไม่ได้ทำงานที่ออฟฟิศเหมือนปกติ เพราะหารู้ไม่ว่าบางที ที่ๆ ปลอดภัยที่สุดก็อาจอันตรายที่สุดได้เช่นกัน งั้นเรามาเตือนสติตัวเองกันดีกว่า ด้วย 5 ข้อที่ควรระวังในวันที่ต้อง Work From Home – อะ ลุกจากเตียง ล้างหน้าล้างตา แล้วมาเตือนตัวเองดังๆ กันเร็ว อย่าคิดว่าทำงานอยู่บ้าน = วันชิลล์ๆ อันนี้สำคัญสุดเลย อย่าคิดว่าทำงานอยู่บ้าน เท่ากับการหยุดพักผ่อนเด็ดขาด! ประเภททำไปชิลล์ไป อะ แวะพักที่เตียงแป๊บนึง เปิดซีรีส์ดูสักตอน หรืออุ๊ย..แวะออกไปถ่ายรูปที่คาเฟ่ชิคๆ หน้าปากซอยดีกว่า…อะไรแบบนี้คืออันตรายต่อหน้าที่การงานมากนะ ขอเตือนเบาๆ ว่าอย่าทำเล้ยย ไม่ดีหรอก ที่ดีที่สุดคือ เคยทำงานที่ออฟฟิศได้ Productive แค่ไหนก็ขอให้ทำเหมือนเดิม เริ่มจากตื่นแต่เช้า อาบน้ำแต่งตัวให้สดชื่น แล้วตั้งหน้าตั้งตาทำงานที่ตัวเองรับผิดชอบให้ไม่ขาดตกบกพร่อง ถ้าจะพัก ก็พักแค่พอประมาณ แล้วลุยงานต่อทันที อ้อ อีกเคล็ดลับคือ จัดโซนสำหรับทำงานที่บ้านใหม่ แยกออกจากโซนพักผ่อนให้ชัดเจน ก็ช่วยให้เรามีสมาธิกับการทำงานได้มากขึ้นนะ ไม่เชื่อก็ลองงงง อย่ามือลั่นกดซื้อของออนไลน์บ่อย เข้าใจว่าเหงาที่ได้แต่นั่งไถมือถือเล่นๆ ที่บ้าน จนต้องเข้าไปกดสั่งซื้อของออนไลน์ ทั้งของกินและของใช้ให้หายเหงา อีกทั้งไอ้ประโยค ‘ของมันต้องมี’ ก็ค้ำคอซะเหลือเกินด้วย…แต่เผลอแป๊บเดียว เฮ้ย ทำไมเงินในบัญชีเหลือเท่านี้เนี่ย!? ของมันต้องมีก็จริง แต่บางอย่างที่ยังไม่จำเป็นต้องมีในช่วงนี้ ก็ข้ามๆ ไปก่อนเนอะ เพราะเวลานี้เศรษฐกิจโดนพิษไวรัสเล่นงานจนแย่ไปทุกภาคส่วน เงินทองกลายเป็นของมีค่ายิ่งกว่าเดิม ข้าวก็ยาก มาสก์ก็แพง การเก็บหอมรอมริบและใช้จ่ายอย่างประหยัดต่างหาก ที่เป็น ‘ของมันต้องมี’ ที่แท้จริงในเวลานี้ อย่ากินทั้งวันจนจะแทบฝันเห็นเป็นของกิน! เข้าใจอีกเหมือนกันว่าอยู่บ้านวันๆ ไม่ได้คุยกับใครมาก ปากมันก็เหงา ใจก็มันร่ำร้องให้ท้องเรียกหาอาหาร จนต้องเดินไปเปิดตู้เย็นหาอะไรกิน แต่เดินแล้ว..ก็เดินอีก เดินเรื่อยๆ ไม่เหนื่อยไม่พัก และไม่มีมื้อ กินได้ทั้งวันเลยจ้า แล้วจะไม่ให้อ้วนขึ้นได้ไงล่ะ ถ้าปล่อยให้ตัวเองตามใจปากอย่างนี้ ทางที่ดี ถ้าไม่อยากกลับไปออฟฟิศแล้วโดนทักว่า อ้วนขึ้นป่าวเนี่ย ก็กินอย่างมีวินัย กินแต่พองาม สามมื้อพอจ้า อย่าให้ Work From From ต้องกลายเป็น Fat From Home เนอะ วางของกินในมือเถิดจะเกิดผลจ้า อย่าให้ความคิดถึงทำร้ายกันและกัน พี่โจ้ วง Pause เคยกล่าวว่า หากเคียงชิดใกล้ แต่เธอต้องทุกอย่างเพื่อฉัน ประโยชน์ที่ใด หากรักทำร้ายตัวเอง – ใช่แล้ว คงไม่มีเพลงไหนเหมาะเป็น Ost. ของความรักของคนในช่วงนี้ เท่าเพลงนี้แล้ว เมื่อต้องอยู่ห่างกัน เพราะต่างคนต่างต้องกักตัวในสถานที่ปลอดภัย (บ้านนั่นแหละ) จะมาเจอกัน กินข้าว ดูหนัง เดินห้างเหมือนปกติคงไม่ได้ ก็อาจทำให้ความสัมพันธ์ที่เคยหวานต้องจางลง ถึงโลกนี้จะมีสิ่งที่เรียกว่า ‘วิดีโอคอล’ ให้ช่วยบรรเทาความคิดถึง แต่หลายคนก็ยังรู้สึกว่ามันเติมใจได้ไม่เต็มเหมือนตอนเจอหน้าอยู่ดี ก็คงต้องย้อนกลับไปฟังเพลง ‘ที่ว่าง’ ของ Pause อีกครั้ง แล้วทำความเข้าใจอีกที ว่าสถานการณ์ตอนนี้ไม่ปกติ ไม่มีทางรู้เลยว่าก่อนเราจะมาเจอหน้ากัน จะมีใครหอบเอาไวรัสติดตัวมาด้วยหรือเปล่า บางทีเราอาจทำร้ายคนที่เรารักโดยไม่ตั้งใจก็เป็นได้ ฉะนั้น อย่าให้ความคิดถึงของเราทำร้ายกันและกันเลย ห่างกันสักพักก่อน ไว้โลกนี้ดีขึ้นแล้วค่อยออกมาเจอกันนะ 🙂 อย่าลืมป้องกันตัวเองให้ปลอดภัยด้วยนะ เมื่อทำได้ทั้ง 4 ข้อที่แนะนำมา ก็อย่าลืมข้อนี้ด้วยน้า ให้ตระหนักไว้ตลอดว่าสถานการณ์ตอนนี้ ไม่มีคำว่าปลอดภัยแท้จริง หมั่นล้างมือให้สะอาดทุกครั้งที่สัมผัสสิ่งของจากผู้อื่น เช่น พัสดุหรืออาหารที่มาส่งที่บ้าน หรือจะออกไปซื้อของที่หน้าปากซอย ก็อย่าชะล่าใจไม่ใส่หน้ากากอนามัยล่ะ เพราะเราไม่มีวันรู้เลยว่าเมื่อไรคนโชคร้ายจะกลายเป็นเรา ท่องไว้ให้ขึ้นใจ ฉันต้องรอด เจ้าโควิดต้องทำอะไรฉันไม่ได้ เพราะฉันดูแลตัวเองดีมาก! ซื้อสบู่ล้างมือฆ่าเชื้อโรคติดบ้านไว้ และขยันล้างมือบ่อยๆ ก็ช่วยลดความเสี่ยงได้แล้ว -> สบู่ล้างมือลดการสะสมของแบคทีเรีย
