ถึงขนมปัง หรือ ปัง จะเดินทางเข้ามาในญี่ปุ่นพร้อมกับคณะมิชชันนารีจากโปรตุเกสตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 15 แต่ก็ต้องรออีกร่วม 3 ศตวรรษถัดมานู่นแน่ะครับ ที่ขนมปังจะได้รับความนิยม เป็นที่ยอมรับ และกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบแยกกันยาก ชาวญี่ปุ่นคิดค้นขนมปังแบบของตัวเอง ไม่ซ้ำใครในโลกขึ้นมามากมาย และนี่ก็คือบรรดาขนมปังเหล่านั้น อันปัง ภาพ – Monapan ขนมปังถั่วแดง หรือ อันปัง เหมือนกับเจ้าอันปังแมน ฮีโรที่หัวเป็นขนมปังถั่วแดงนั่นแหละครับ อันปังเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 1874 โดยช่างทำขนมชื่อ คิมุระ ยาสุเบย์ แห่งร้านคิมุระยะในย่านกินซ่า ร้านขนมปังที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น เขาเอาถั่วแดงซึ่งเป็นหัวใจหลักของขนมญี่ปุ่นมาทำเป็นไส้ของขนมปัง เพื่อให้คนญี่ปุ่นลองเปิดใจได้ง่ายขึ้น และมันก็ประสบผลสำเร็จอย่างสวยงาม ถึงขั้นได้นำขึ้นถวายให้พระจักรพรรดิในสมัยนั้นได้ลองชิมด้วย อันปังสูตรดั้งเดิมที่คุณคิมูระคิดขึ้นนี้ยังมีความพิเศษตรงที่ใช้ยีสต์จากสาเกแทนยีสต์ปกติ และดอกซากุระดองเกลือ เพื่อให้กลิ่นและรสของขนมปังเข้ากับถั่วแดงและถูกปากคนญี่ปุ่นมากขึ้นด้วยนะครับ ความสำเร็จของอันปังนี้นอกจากจะทำให้ร้านคิมุระยะขายดีเป็นเทน้ำเทท่าแล้ว ยังทำให้คนญี่ปุ่นหันมาสนใจขนมปังในฐานะขนมหวาน มีการคิดค้นขนมปังใส่ไส้ หรือ คาชิปัง ขึ้นมาอีกมากมายเลย ทั้งครีมปัง แยมปัง หรือ โคโรเนะ ขนมปังยัดไส้ครีมหรือช็อกโกแลตรูปทรงเกลียว ถ้าใครมีโอกาสไปญี่ปุ่นแล้วอยากลองกินอันปังฉบับต้นตำรับของแท้ ซึ่งเขาพัฒนาให้ดีและหลากหลายยิ่งขึ้นเรื่อยๆ มาตลอด 140 กว่าปี ก็มองหาร้านเบเกอรีชื่อ คิมุระยะ โซฮนเต็น ได้เลยนะครับ ปัจจุบันมีกว่า 30 สาขาทั่วประเทศญี่ปุ่นแล้ว เมลอนปัง ภาพ – wikipedia คนญี่ปุ่นชอบทานเมลอนกันมากนะครับ เป็นผลไม้ประจำฤดูกาลเลย โดยเฉพาะเมลอนจากเมืองยูบาริ จังหวัดฮกไกโดนั้น เป็นหนึ่งในผลไม้ที่ราคาแพงที่สุดในโลกเลยทีเดียว แม้แต่ขนมปังขึ้นชื่อของญี่ปุ่น ยังเป็นขนมปังเมลอน หรือ เมลอนปัง แต่ว่า..เจ้าเมลอนปังที่ว่า ไม่มีได้มีไส้ รส หรือแม้แต่กลิ่นเมลอนเลย!? ขนมปังเมลอนเกิดจากการหุ้มแป้งโดขนมปังปกติ ด้วยแป้งโดคุ้กกี้ จะหุ้มทั้งหมดหรือด้านเดียวก็แล้วแต่แต่ละร้าน ผลที่ได้ออกมาคือขนมปังที่ด้านนอกกรุบกรอบเหมือนคุ้กกี้ แต่ข้างในยังคงนุ่มเหมือนขนมปังทั่วไป รอยแตกของโดคุ้กกี้เมื่ออบเสร็จจะมีรูปร่างเป็นตาข่าย คล้ายลายบนผลเมลอน จึงเป็นที่มาของชื่อเมลอนปังนั่นเอง ในปัจจุบันหลายๆ ร้านก็เริ่มพัฒนาเมลอนปังให้มีไส้ครีมเมลอน หรือแต่งกลิ่นแต่งสีให้คล้ายเมลอน สมชื่อเมลอนปังมากยิ่งขึ้นด้วย ประวัติของเมลอนปังนั้นไม่แน่ชัด เพราะว่าพบขนมปังที่มีลักษณะคล้ายกันในหลายๆ ชื่อ บางภูมิภาคเจ้าขนมนี้ก็มีชื่อว่า ซันไรส์ จากลักษณะพองฟูแล้วแตกออกเหมือนพระอาทิตย์ขึ้น อย่างไรก็ตาม เมลอนปังนั้นน่าจะมีในญี่ปุ่นมาแล้วไม่ต่ำกว่า 100 ปี คัตสึแซนด์ ภาพ – Northcafe ประวัติของแชนด์วิชนั้นเราทุกคนรู้กันดีอยู่แล้ว คือขุนนางท่านหนึ่ง นามว่า เอิร์ล ออฟ แซนด์วิช ติดการพนันมากจนไม่อยากเสียเวลากินอาหาร จึงให้คนนำขนมปังมาประกอบผักและเนื้อ เกิดเป็นอาหารที่สามารถถือรับประทานได้ ก่อนจะกลายเป็นอาหารสุดสะดวกของคนทั่วโลกในเวลาต่อมา แซนด์วิชถูกพัฒนาไส้ในไปตามแต่ความสร้างสรรค์ของผู้คน แต่ที่ญี่ปุ่น แซนด์วิชซึ่งเรียกได้ว่าเป็นของขึ้นชื่อเลยก็คือแซนด์วิชหมูชุบเกล็ดขนมปังทอด (ทงคัตสึ) ที่เรียกว่า คัตสึแซนด์ นั่นเอง จุดกำเนิดของคัตสึแซนด์ไม่ได้อยู่ที่ร้านขนมปัง แต่เป็นร้านทงคัตสึเก่าแก่ที่ชื่อว่า อิเซ็น ฮนเต็น ในอุเอโนะ โตเกียว เจ้าของร้านต้องการจะทำเมนูกินง่ายๆ ให้สาวๆ เกอิชาในย่านโคมแดง ก่อนจะกลายเป็นอาหารว่างสุดฮิตที่หาซื้อได้จากแทบทุกร้านสะดวกซื้อและสถานีรถไฟ ปัจจุบันร้านอิเซ็นก็ยังเปิดให้บริการอยู่ และก็ยังจำหน่ายคัตสึแซนด์อยู่ด้วย ใครอยากจะลองรสชาติต้นตำรับ ก็ต้องแวะไปลองกันให้ได้นะ ยากิโซบะปัง ภาพ – macaro-ni เจ้าขนมปังยากิโซบะนี้ อาจจะพบเห็นในไทยได้ไม่บ่อยนัก แต่สำหรับคนญี่ปุ่น หรือคนที่คุ้นเคยกับการ์ตูนญี่ปุ่นดี จะต้องรู้จักเจ้าขนมปังที่เด็กทั้งโรงเรียนแย่งกันซื้อตอนพักเที่ยง และพระเอกที่อ่อนแอก็จะถูกเด็กเกเรหัวโจกใช้เป็นเบ๊มาซื้อเป็นประจำ จุดกำเนิดของขนมปังยากิโซบะนั้นก็คล้ายๆ กับคัตสึแซนด์ ก็คือมันไม่ได้เกิดขึ้นที่ร้านขนมปัง แต่เป็นร้านยากิโซบะที่ขายขนมปังควบคู่ไปด้วย เกิดหัวใส เอาของสองอย่างมาประกบเข้าด้วยกัน จนกลายเป็นอาหารชิ้นนี้ ช่วงเวลาที่เกิดก็ไม่ใกล้ไม่ไกลกันนัก เพราะเป็นช่วงที่ขนมปังเริ่มเข้ามามีบทบาทในฐานะสิ่งทดแทนข้าวของชาวญี่ปุ่น มากกว่าที่เคยเป็นแค่ขนมหวาน หลายคนอาจจะมองว่าเมนูนี้ช่างซ้ำซ้อน เอาแป้งมาเป็นไส้ในแป้งอีกที แต่ดูเหมือนว่าที่ญี่ปุ่นจะมีเมนูแนวๆ นี้อีกไม่น้อย เช่น โคร็อกเกะปัง ซึ่งเป็นขนมปังสอดไส้คร็อกเกต์ (มันบดชุบเกล็ดขนมปังทอด) แป้งในแป้งในแป้งไปอีก คาเรปัง ภาพ – Setagaya Park เมื่อพูดถึงอาหารญี่ปุ่น เราอาจจะนึกถึงซูชิหรือราเมงกันก่อน แต่ในความเป็นจริงแล้วอาหารที่คนญี่ปุ่นนิยมรับประทานกันเป็นอันดับ 1 เลย ก็คือเมนูง่ายๆ ที่ใครก็ทำได้ตั้งแต่ระดับครัวเรือนไปจนถึงภัตตาคารหรูอย่าง แกงกะหรี่ หรือ คาเร เชื่อกันว่าแกงกะหรี่ อาหารที่มีต้นกำเนิดจากอินเดียนั้นเข้ามาในญี่ปุ่นแทบจะพร้อมกับพุทธศาสนาในช่วงศตวรรษที่ 5 เลยทีเดียว ผ่านกาลเวลามาจนถึงต้นศตวรรษที่ 19 ชาวญี่ปุ่นก็ดัดแปลงสูตรแกงกะหรี่เป็นของตัวเองให้มีความข้น จากการเคี่ยวหอมหัวใหญ่ มันฝรั่ง และแครอต จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของชาติตัวเอง และแกงกะหรี่ญี่ปุ่นก็กลายเป็นอาหารที่มีชื่อไปทั่วโลก ขนมปังแกงกะหรี่ หรือ คาเรปัง นั้น เชื่อกันว่าได้แรงบันดาลใจมาจากพิรอชกี ขนมปังยัดไส้เนื้อ เห็ด ข้าว และหอมหัวใหญ่ของรัสเซีย โดยผสมแป้งลงในแกงกะหรี่ให้เหนียวข้น ใช้เป็นไส้ในขนมปัง จากนั้นอบหรือชุบแป้งทอดให้มีผิวนอกกรุบกรอบ ปัจจุบันคาเรปังนั้นสามารถหาซื้อได้ทั้งตามร้านเบเกอรี ร้านสะดวกซื้อ รวมไปถึงสถานีรถไฟ และเป็นอาหารโปรดของใครหลายๆ คน บรรดาคนรักคาเรปังในญี่ปุ่นได้รวมตัวกันก่อตั้งสมาคมคาเรปังญี่ปุ่น (Japan Currypan Association) ขึ้นมา เพื่อเผยแพร่ความสุดยอดของคาเรปังให้แก่ผู้คนทั่วโลกด้วย ไม่ได้มีเพียงแค่ 5 ชนิดที่เรายกตัวอย่างมาเท่านั้น ญี่ปุ่นยังคงเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยขนมปังที่น่าตื่นตาตื่นใจ และแน่นอนว่าน่ากินจนน้ำลายสอ ด้วยการเอาความคิดสร้างสรรค์ผสานกับภูมิปัญญา นำวัตถุดิบต่างๆ ในท้องที่มาดัดแปลงขนมปังให้ถูกใจคนในชาติได้ในที่สุด ที่มา all about Japan Japan Times Live Japan Wanderlust Japan
