ไม่นานมานี้เอไอเอส ประกาศวิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจในปีนี้ออกมาผ่านงาน ‘AIS Vision 2017 Digital For Thai’ ซึ่งมีหลายประเด็นที่น่าสนใจ และได้รับเสียงฮือฮาแต่มีอะไรบ้างที่น่าสนใจ นี่คือ 5 ประเด็นที่เราสรุปมาแล้วปีนี้ค่ายสีเขียวจะทำอะไร เพื่อทำให้ประเทศไทยเข้าสู่การเป็นประเทศไทยยุค 4.0 และครองใจลูกค้า 1. ยกระดับเครือข่ายสู่ Next G Network เอไอเอส พัฒนาเครือข่ายให้สามารถรองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตเพื่อรับส่งข้อมูลออนไลน์ด้วยความเร็วระดับกิกะบิท เป็นครั้งแรกของ AEC ซึ่งเอไอเอสเลือกใช้เทคโนโลยีล่าสุด ‘Multipath TCP’ เพื่อเพิ่มความเร็วได้ถึง 10 เท่าของเครือข่าย LTE และ เร็วขึ้นอีก 4 เท่าของเครือข่าย Tri Band LTE Advance ร่วมไปถึง AIS Wifi และ เครือข่าย AIS Fibre ก็จะพร้อมรองรับการใช้งานได้ถึง 10 กิกะบิทด้วยทำให้หลังจากนี้ผู้ใช้งานทุกบริการของเอไอเอส จะได้รับบริการผ่านความเร็วของอินเทอร์เน็ตที่แรงขึ้น!! จนไม่สะดุดทุกความสุขบนโลกออนไลน์ 2. เครือข่ายแรกใน AEC ที่พัฒนาสู่ Narrowband IoT จากการพัฒนาด้านความเร็วของอินเทอร์เน็ตทำให้เอไอเอส เปิดตัวโครงข่ายการให้บริการด้านการสื่อสารแบบใหม่ที่จะเข้ามาแทนที่ 3G/4G เรียกว่า ‘Narrowband Internet of Thing’ ซึ่งอุปกรณ์การสื่อสารยุคใหม่ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตตลอดเวลาเริ่มทำออกมาเพื่อรองรับเทคโนโลยี Narrowband IoT แล้ว Narrowband IoT ทำให้การเล่นเน็ตเร็วขึ้นกินดาต้าน้อยลง พอมีการใช้งานบริมาณดาต้าที่น้อยลง (แต่ความเร็วเน็ตยังอยู่) ก็ทำให้เครื่องทำงานน้อยลงจึงไม่เปลืองเเบต ในแง่ของสถานีส่งสัญญาณ แต่ละสถานีส่งสัญญาณสามารถรองรับปริมาณอุปกรณ์ IoT ได้สูงสุดในระดับแสนเครื่องต่อสถานีฐาน รัศมีการให้บริการครอบคลุมของเครือข่ายต่อสถานีฐาน กระจายไปไกล10 ก.ม. แม้ในตัวอาคารก็ยังรับสัญญาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเอไอเอส ยังนำ Narrowband IoT ไปประยุกต์ใช้ในกรณีอื่นได้ ที่ผ่านมาเอไอเอส ได้ทดลอง NB-IoT ไปแล้ว แต่ปีนี้เอไอเอส จะเปิดให้บริการแบบเต็มๆ ซึ่งจะทำให้ค่ายสีเชียว เป็นรายแรกใน AEC ที่ใช้ NB-IoT อย่างจริงจัง 3. เปิดตัวสุดยอด Digital Content เพื่อความบันเทิง สิ่งหนึ่งที่สร้างความฮือฮาให้กับเหล่าลูกค้า และว่าที่ลูกค้าของค่ายสีเขียว ก็คือ เอไอเอส ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับผู้ผลิตคอนเทนต์อย่าง FOX Networks, HBO, NBA รวมไปถึง Chromecast เพื่อให้บริการลูกค้าผ่านทาง AIS Play และกล่อง AIS Play Box ซึ่งผู้ใช้งานสามารถรับชมความบันเทิงได้ตลอดเวลา แน่นอนว่าบริการนี้ทำเอาหลายคนอยากจะเป็นลูกค้าเอไอเอสกันเลย 4.ยกระดับ AIS Business Cloud เอไอเอส ได้ประกาศความร่วมมือกับไมโครซอร์ฟ นำนวัตกรรมด้าน Cloud มาใช้เพื่อให้ลูกค้าที่อยู่ในภาคธุรกิจทุกขนาดสามารถเลือกใช้บริการในการจัดเก็บข้อมูลต่างๆ ขององค์กรกับเอไอเอสผ่าน AIS Business Cloud ที่ถูกพัฒนาเพื่อเพื่มประสิทธิภาพมากกว่าเดิม ทั้งจำนวนการเก็บข้อมูลที่เพิ่มขึ้น สามารถเข้าถึงทุกข้อมูลที่ต้องการได้เพียงมีอินเทอร์เน็ต ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเช่าเซิร์ฟเวอร์เก็บข้อมูล รวมถึงยังมีโปรแกรม Offile 365 ที่ให้ผู้ใช้บริการเข้าถึงโปรแกรมดังกล่าวเพื่อการทำงานเอกสารได้ทุกเวลาและถูกลิขสิทธิ์ องค์กรทุกขนาดสามารถใช้บริการได้แล้วเพื่อปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิตอล 5. เปิดตัวนวัตกรรม AIS Digital For Thais เพื่อคนไทยในยุค 4.0 เพื่อพัฒนาให้ประเทศไทยเข้าสุ่ยุค 4.0 เอไอเอส ไม่เพียงแต่พัฒนาด้านการให้บริการให้เร็วขึ้นอย่างเดียว แต่ยังพัฒนาการให้บริการที่ครอบคลุมกับคนทุก ทุกกลุ่ม โดย 4 ด้านหลักๆ ที่เอไอเอส นำเทคโนโลยีมาช่วยสนับสนุนด้านต่างๆ ได้แก่ + ด้านเกษตรกรรม และ OTOP : เอไอเอส จะนำเทคโนโลยีมาช่วยส่งเสริมด้านการขายสินค้า และสร้างเครือข่ายเกษตรกรทั่วประเทศ และให้ความรู้ด้านต่างๆ อย่างทันท่วงทีอย่างไม่สะดุด ซึ่งเทคโนโลยี Narrowband IoT จะมาช่วยให้การสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ตไม่ขาดช่วง และเอไอเอส ยังพัฒนาแอพ ‘ฟาร์มสุข’ เพื่อช่วยเพิ่มรายได้สร้างช่องทางในการซื้อ–ขายสินค้า และลดรายจ่ายของเกษตรกร + ด้านสาธารณสุข : เอไอเอส จะพัฒนาแอพ ‘อสม.ออนไลน์’ มาให้ตัวแทนของแต่ล่ะหมู่บ้านสามารถติดต่อสื่อสารกับหมอ หรือบุคคลากรด้านสาธารณะสุข เพื่อให้คนไข้ในหมู่บ้านสามารถเข้าถึงการรักษาผ่านการแนะนำเบื้องต้นได้แม้อยู่ในพื้นที่ห่างไกล แต่ก็คุยกันได้ หรือให้ความรู้เรื่องการดูแลตัวเองเพื่อให้ตัวแทนในหมู่บ้านไปส่งต่อความรู้ต่อ + ด้านการศึกษา : เอไอเอส ยังคงสนับสนุนด้านการศึกษาแกเด็กๆ ในพื้นที่ห่างไกลอย่างต่อเนื่อง และยังนำคอนเทนต์ความรู้ที่มีมาเผยแพร่ผ่าน AIS PLAYBOX รุ่นพิเศษที่นำเสนอเรื่องราวที่เป็นประโยชน์แก่เด็กๆ แม้จะอยู่พื้นที่ห่างไกลก็สามารถรับชมได้ + ด้านประกอบธุรกิจของกลุ่ม Start Up : เพราะเอไอเอสเห็นว่า Start Up คืออนาคตเอไอเอส จึงเปิดศูนย์กลางของเหล่า Start Up ชื่อ ‘AIS D.C. Designed For Creation’ โดยร่วมมือกับ TCDC เพื่อให้ความรู้แก่ Start Up ที่สนใจ และยังมีเทคโนโลยีมากมายให้เหล่าผู้ประกอบการรุ่นใหม่ได้ทดลองใช้เพื่อนำมาพัฒนาธุรกิจของตัวเอง