ในปี 2021 นี้หากพูดถึงการลงทุนที่ฮอตสุดมันก็คงหนีไม่พ้นเจ้า ‘บิทคอยน์’ สกุลเงินดิจิตอลสุดโด่งดังที่ถึงแม้ใครไม่สนใจก็ต้องมีแอบคุ้น ๆ หูกันบ้างล่ะ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมามันก็ได้สร้างกระแสด้วยมูลค่าที่พุ่งสูงขึ้นไปแตะระดับ 1 ล้านบาทกว่า ต่อ 1 BTC จนทำให้หลายคนที่ยังไม่มีบิทคอยน์เป็นของตัวเองต้องเสียดายกันเป็นแถวแบบที่เขาว่ากันว่า ‘รู้อะไร ไม่เท่ารู้งี้’ ถ้าย้อนกลับไปซื้อตอนที่มันราคายังถูกได้ ตอนนี้ก็คงกลายเป็นเศรษฐีไปแล้วสินะ ~ ในวันนี้ Mango Zero ก็จะพาไปทำความรู้จักบิทคอยน์ กับเรื่องราวสนุก ๆ ที่คุณอาจไม่เคยมาก่อน ซึ่งมันจะอะไรยังไงก็ไปดูกันเล๊ยยย.. Bitcoin Cryptocurrency ที่ปังที่สุดในโลก หลายคนคงรู้แล้วว่า ‘บิทคอยน์’ คือหนึ่งในสกุลเงินดิจิทัล ที่ใช้เพื่อเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้า และบริการ โดยไม่ขึ้นกับสกุลเงินใด ๆ ไม่มีรูปร่าง และไม่สามารถจับต้องได้ ไม่เหมือนกับเงินบาท หรือเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนอกจากบิทคอยน์แล้ว ในตระกูลของสกุลเงินดิจิทัล ก็ยังมีสกุลเงินอื่น ๆ อีกอย่าง Ethereum (ETH), Ripple (XRP), Litecoin (LTC), ฯลฯ แต่ที่เห็นจะคุ้นหูกันมากที่สุดก็คือเจ้า ‘บิทคอยน์’ นี่แหละที่ได้รับความนิยม และยังเป็นคริปโตมีมูลค่ามากที่สุดในโลก จนถือได้ว่าเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ปังที่สุดแล้วในตอนนี้ ยังไม่มีใครรู้ว่าใครคือผู้สร้างบิทคอยน์กันแน่ ? ก็ยังคงเป็นปริศนากันต่อไปว่าใครคนที่สร้างบิทคอยน์ภายใต้ชื่อ ‘ซาโตชิ นากาโมโต’ ที่ถึงแม้จะมีการพยายามสืบสวนการคาดเดาออกมาเป็นทฤษฎีสมคบคิดเชื่อมโยงความน่าจะเป็นต่างต่างนานามากเท่าใด ก็ยังไม่สามารถระบุได้อยู่ดีว่า ‘เขา เธอ หรือกลุ่มคน’ นี้คือใครกันแน่ แต่ที่เรารู้แน่ ๆ ก็คือ เขาคือคนที่สร้างคริปโตที่มีมูลค่าสูงงงงที่สุดในโลก (ณ เวลานี้) ขึ้นมา ซึ่งมันอาจจะเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงที่จะเปลี่ยนแปลงโลกนี้ไปได้ตลอดกาล ~ บิทคอยน์มีจำกัด และสร้างเพิ่มไม่ได้ สำหรับหลาย ๆ คนที่คลุกคลีอยู่ในวงการคริปโตคงเป็นที่รู้กันดีว่าบิทคอยน์นั้นถูกออกแบบมาให้มีอยู่จำกัดเพียง ‘21 ล้านเหรียญ’ เท่านั้น ซึ่งการจะเจอบิทคอยน์ได้จะต้องอาศัยการ ‘ขุดบิทคอยน์’ ในเหมืองรูปแบบดิจิตอลที่ตอนนี้ขุดออกมาแล้วกว่า 18.62 ล้านเหรียญ หรือคิดเป็น 88.6% แปลว่าเหลืออีกเพียง 2.3 ล้านเหรียญเท่านั้นที่ยังรอการถูกขุดออกมา หากทุกอย่างดำเนินไปตามโปรแกรมที่ ซาโตชิ วางไว้ เหรียญบิทคอยน์ทั้งหมดจะถูกขุดครบในปี 2140 หรืออีก 119 ปีข้างหน้านี้ เราก็คงต้องมารอดูกันว่าหลังจากบิทคอยน์ถูกออกมาจนขุดครบแล้ว มูลค่าของมันจะยังคงพุ่งสูงขึ้นไปอีกหรือไม่ หรือในอนาคตมันจะเป็นอย่างไร แต่กว่าจะถึงวันนั้นมันจะมีใครในยุคนี้ได้อยู่รอเห็นมั้ยนะ.. พิซซ่าที่แพงที่สุดในโลก เรื่องราวของ ‘พิซซ่าที่แพงที่สุดในโลก’ เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 10 ปีก่อน ในยุคที่บิทคอยน์ถือกำเนิดได้เพียงปีเศษ นายลาสซ์โล ฮันแยชซ์ (Laszlo Hanyecz) ที่กำลังหิวได้โพสต์ลง Bitcoin Forum ว่าเขานั้นต้องการใช้ 10,000 BTC แลกกับพิซซ่า Papa John ขนาดใหญ่สองถาด (ซึ่งในตอนนั้นมูลค่า 1 BTC = 0.0025 ดอลลาร์ เท่ากับว่าบิทคอยน์ของลาสซ์โลมีค่าเพียง 7 – 8 ร้อยเท่านั้นเอง) ในยุคนั้นที่บิทคอยน์ยังไม่เป็นที่นิยม ทำให้ข้อเสนอของเขาไม่ได้รับความสนใจมากนัก แต่แล้วไม่รู้ว่าเป็นสวรรค์ หรือนรกเป็นใจทำให้มีคนผ่านมาเห็นกระทู้ของเขา และตกลงปิดดิลสั่งซื้อพิซซ่าสองถาดใหญ่ แลกกับเจ้าบิทคอยน์ไร้ราคานั้น . เวลาผ่านไป 10 ปี ไวเหมือนโกหก . ตัดภาพมาที่ในช่วงเวลาปัจจุบัน มูลค่าของบิทคอยน์เพิ่มขึ้นสูงถึงประมาณ 47,000 ดอลลาร์ต่อ 1 BTC นั้นเลยทำให้การซื้อพิซซ่าของลาสซ์โลเมื่อ 10 ปีที่แล้ว กลายเป็นการซื้อ ‘พิซซ่าที่แพงที่สุดในโลก’ มาลองคิดเล่น ๆ กันว่าถ้าหากในตอนนี้ลาสซ์โลยังเก็บ 10,000 BTC ของเขาในเวลานั้นไว้ ในวันนี้มันจะทำให้เขามีเงินมากถึง 470,000,000 ดอลลาร์ หรือราวๆ 1.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งแน่นอนมันไม่เพียงจะทำให้เขาสามารถซื้อพิซซ่าจาก Papa John ได้ 2 ถาด แต่จะทำให้เขาเป็นเจ้าของแฟรนไชส์ Papa John ได้กว่า 1,880 แห่ง และกลายเป็นเศรษฐีไปได้เลย บทเรียนคนขี้ลืม ลืมอะไรก็ลืมไป แต่จะมาลืมหรัสวอลเล็ทที่มีมูลค่า 7,002 บิทคอยน์มันไม่ด๊ายยยย! เรื่องราวบทเรียนคนขี้ลืมที่ว่านี้มาจาก สเตฟาน โทมัส (Stefan Thomas) หนุ่มโปรแกรมเมอร์แห่งเมืองซานฟรานซิสโก โดยเรื่องมันเริ่มขึ้นในวันหนึ่งเมื่อหลายปีก่อนที่สเตฟานได้รับบิตคอยน์จำนวนหนึ่งเป็นรางวัลจากคนรู้จัก เมื่อรับมาแล้วเขาก็เก็บมันเข้าวอลเล็ทดิจิทัลของตัวเอง พร้อมกับจดรหัสใส่กระดาษไว้เผื่อวันหนึ่งจะได้กลับมาใช้ประโยชน์ วันเวลาผ่านไปบิทคอยน์ก็มีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนเมื่อถึงวันที่โทมัสกลับมาเข้ารหัสอีกครั้ง แต่แล้วเขาก็ได้พบว่า ‘กระดาษจดรหัสนั้นหายไปแล้ว!’ โทมัสจึงลองสุ่มเดาใส่รหัสไปถึง 8 ครั้งแต่ว่ามันก็ไม่เป็นผล และจำนวนครั้งการคาดเดาก็น้อยลงทุกทีจนในตอนนี้ก็เหลือโอกาสเพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้น ซึ่งถ้าหากเขายังจำรหัสที่ถูกต้องไม่ได้มันก็แปลว่าเขาจะต้องเสียบิตคอยน์จำนวน 7,002 บิทคอยน์ไป หรือตีเป็นเงินมูลค่ากว่า 7 พันล้านบาท ใช้พลังงานขุดบิทคอยน์ 1 ครั้ง = นอนดูยูทูป 52,000 ชั่วโมง แม้บิทคอยน์จะสร้างรายได้มหาศาลให้กับนักลงทุนทั่วโลก แต่ในอีกด้านมันกลับกำลังทำลายทรัพยากรของโลกได้อย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยการใช้พลังงานไฟฟ้าสำหรับการขุดบิตคอยน์ทั่วโลกที่ทั้งปีใช้ไฟฟ้าไปกว่า 121.36 เทราวัตต์ชั่วโมง (TWh) ถ้าพูดให้เห็นภาพกันง่าย ๆ มันก็จะเท่ากับการใช้ไฟฟ้าทั้งปีของอาร์เจนติน่าทั้งประเทศ ซึ่งเราจะเห็นได้ว่ามันเยอะมาก ๆ เลยใช่มั้ยล่ะ แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือหากจะเทียบการขุดบิทคอยน์ 1 ครั้ง มันก็จะเท่ากับการที่เรานอนดูยูทูปที่ยาวนานถึง 52,000 ชั่วโมงเลยทีเดียว ที่มา TechOffside, Cryptosiam, DailyGizmo, efinanceThai, Supercryptonews
