ในช่วงการใช้ชีวิตแบบระแวงว่า ตัวเองจะติดโควิดวันไหนแบบนี้ ความหวังของทุกคนก็คงไม่พ้นการหวังว่าจะมี ‘วัคซีนต้านโควิด’ มาช่วยกู้โลกทำให้สถานการณ์โควิดมันดีขึ้น แต่หลายๆ คนก็คงจะพอรู้กันบ้างแล้วว่ามีวัคซีนที่กำลังพัฒนาอยู่ทั่วมุมโลก แต่ว่าวัคซีนตัวไหนผลิตเสร็จพร้อมใช้แล้วล่ะ? วัคซีนตัวไหนยังอยู่ในขั้นทดลอง? วันนี้ Mango จะขอมาสรุปอัปเดตการพัฒนาวัคซีนว่าแต่ละสูตรแต่ละบริษัทได้มีการพัฒนาไปถึงไหนกันแล้วมีประเทศไหนอนุมัติให้มีการใช้งานบ้างเรามาดูกันเลยย 1. วัคซีน : Comirnaty บริษัท : Pfizer, Biontech ประสิทธิภาพ : 95% l จาก FDA (องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา) ผลิตประเทศ : สหรัฐอเมริกา, เยอรมันนี จำนวนที่ใช้: 2 โด๊ส (โดยเว้นระยะห่างระหว่างโด๊ส 3 สัปดาห์) ประเทศที่ได้อนุมัติให้มีการใช้งาน อังกฤษ, จีน, ญี่ปุ่น, อเมริกา, อาร์เจนติน่า, ชิลี, คอสตาริก้า, เอกวาดอร์, คูเวต, เม็กซิโก, ปานามา, สิงคโปร์ม, บาห์เรน, แคนาดา, ซาอุดิอาระเบียและ สวิตเซอร์แลนด์ เป็นการร่วมมือระหว่าง Pfizer และ Biontech จากฝั่งประเทศสหรัฐอเมริกา และเยอรมันนีเพื่อหวังจะสร้างวัคซีนโควิด 19 ที่มีประสิทธิภาพอย่างสูงสุด และผลก็เป็นอย่างที่คาด จากผลทดสอบวัคซีนพบว่ามีประสิทธิ์ภาพที่น่าพอใจถึง 95% ซึ่งก็ได้รับการอนุมัติให้ใช้ในประเทศต่างๆ อย่างในอังกฤษ นอกจากนั้นยังมีการสั่งซื้อหลายร้อยล้านโด๊สทั้งใน จีน, ญี่ปุ่น, อเมริกา และประเทศในแถบยุโรป เรียกได้ว่าเป็นตัววัคซีนที่ได้รับความไว้วางใจจากนานาประเทศมากที่สุดในตอนนี้ 2. วัคซีน : mRNA-1273 บริษัท : Moderna, NIH ประสิทธิภาพ : 94.5% l จาก บริษัทโมเดอร์นา การทดลอง บริษัทโมเดอร์นา เผยผลทดลอง วัคซีนจะมีประสิทธิภาพอยู่ที่ 94.5 % เฟส 1 : ในเริ่มแรกนั้นได้ทดสอบกับลิง ซึ่งผลที่ออกมาคือวัคซีนสามารถป้องกันเชื้อโควิด 19 ให้กับลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เฟส 3 : ทดลองกับอาสาสมัครจำนวน 3 หมื่นคน พบว่าประสิทธิภาพของวัคซีนนั้นมีเปอร์เซ็นต์สูงถึง 94.5 % ผลิตประเทศ : สหรัฐอเมริกา จำนวนที่ใช้: 2 โด๊ส (โดยเว้นระยะห่างระหว่างโด๊ส 3 สัปดาห์) ประเทศที่ได้อนุมัติให้มีการใช้งาน แคนาดา, อิสราเอล, สหรัฐฯ, แคนาดา, ญี่ปุ่น, การ์ต้า, เกาหลีใต้ วัคซีน mRNA-1273 จากการทำงานร่วมกันระหว่าง Moderna และ NIH ในสหรัฐอเมริกา โดยมีการเริ่มทดสอบเฟสแรกโดยการทดสอบในลิง ผลการทดสอบพบว่า วัคซีนสามารถป้องกันเชื้อโควิด 19 ได้ จึงได้ทำการเดินหน้าทดสอบวัคซีนกับอาสาสมัครจำนวนกว่า 3 หมื่นราย ผลปรากฏว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพถึง 94.5 % โดยในปัจจุบันแคนาดาได้มีการอนุมัติซื้อวัคซันตัวนี้ และอีกนานาประเทศที่ได้สั่งซื้อเช่นกัน ทั้งนี้วัคซีนจะวางขายตามท้องตลาดครั้งแรกในเดือนมกราคมนี้ 3. วัคซีน : Sputnik V บริษัท : Gamaleya Research Institute ประสิทธิภาพ : 91.4% l ทดสอบในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อินเดีย เวเนซุเอลา และเบลารุสด้วย ผลิตประเทศ : รัสเซีย จำนวนที่ใช้ : 2 โด๊ส (โดยเว้นระยะห่างระหว่างโด๊ส 3 สัปดาห์) ประเทศที่ได้อนุมัติให้มีการใช้งาน บราซิล, แม็กซิโก, เวเนซูเอลา, อินเดีย, รัสเซีย และอาเจนติน่า วัคซีน Sputnik V เป็นวัคซีนที่จะใช้ไวรัสอ่อนแอลงแล้วไม่ทำให้เกิดโรค มาตัดต่อใส่สารพันธุกรรมของไวรัสโคโรนาลงไป เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน จากผลการทดสอบในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อินเดีย เวเนซุเอลา และเบลารุส พบว่าสามารถป้องกันได้ถึง 91.4 % ซึ่งในอาร์เจนตินาก็ได้มีการอนุมัติใช้วัคซีนตัวนี้เป็นประเทศแรกในลาตินอเมริกา นอกจากนี้ยังมีการสั่งจองจากหลายประเทศ รวมถึงในอินเดียที่มีแผนผลิตวัคซีนนี้เองโดยบริษัทยายักษ์ใหญ่ของอินเดียอีกด้วย ทั้งนี้ทางรัสเซียเผยว่า จะได้ใช้วัคซีนเป็นวงกว้างภายในปี 2021 แม้ว่าก่อนหน้านี้ในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทางการรัสเซียจะอนุญาตแล้วในวงจำกัด แม้จะยังไม่แล้วเสร็จในขั้นตอนการทดสอบระยะที่ 3 ก็ตาม 4. วัคซีน : AZD1222 บริษัท : Oxford, AstraZeneca ประสิทธิภาพ : 90% l Oxford, AstraZeneca การทดลอง (23 พ.ย. 2020) เฟส 3 ทดลองวัคซีนกับกลุ่มคนจำนวน 131 เคสในประเทศอังกฤษและบราซิล พบว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพที่มากถึง 90% ผลิตประเทศ : สหราชอาณาจักร, สวีเดน *ไทยได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีสูตรนี้ – กำลังผลิต* จำนวนที่ใช้: 2 โด๊ส (โดยเว้นระยะห่างระหว่างโด๊ส 4 สัปดาห์) ประเทศที่ได้อนุมัติให้มีการใช้งาน ไทย, สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, ญี่ปุ่น, อินเดีย, กลุ่มในประเทศยุโรป นับว่าเป็นวัคซีนตัวที่ 2 ที่ได้รับอนุมัติให้ใช้งานในสหราชอาณาจักรต่อจากวัคซีนของ Pfizer/BioNTech โดยที่ผ่านมามีการทดสอบในอังกฤษ และบราซิล ผลทดสอบออกมาเป็นไปได้ด้วยดี สามารถป้องกันโรคได้ถึง 90% ซึ่งทำให้หลายๆประเทศมั่นใจและได้มีการสั่งซื้อเพื่อมาฉีดให้กับประชาชน ในสหรัฐอเมริกาก็ได้รับวัคซีนและเริ่มการแจกจ่ายฉีดวัคซีนแล้ว ส่วนในไทยเราเองก็ได้มีการนำสูตรวัคนี้ตัวนี้มาใช้ผลิตต่อในไทย โดยคาดว่าจะได้ใช้งานเดือนพฤษภาคมนี้ 5. วัคซีน : BBIBP-CorV บริษัท : Sinopharm ประสิทธิภาพ : 86% l ทดสอบในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ผลิตประเทศ : จีน จำนวนที่ใช้ : 2 โด๊ส (โดยเว้นระยะห่างระหว่างโด๊ส 3 สัปดาห์) การทดลอง ประสิทธิภาพในการป้องกัน 79.34% ในจีนซึ่งได้มีการฉีดให้ประชาชนชาวจีนไปเกือบล้านคน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ วัคซีนมีประสิทธิ 86% ประเทศที่ได้อนุมัติให้มีการใช้งาน จีน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, บาห์เรน BBIBP-CorV มีรายงานว่า วัคซีนตัวนี้มีประสิทธิภาพในการป้องกันโควิด 86% ซึ่งในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ก็ได้การประกาศอนุญาตให้ใช้วัคซีนอย่างเป็นทางการเรียบร้อย เช่นเดียวกับในจีน โดยที่ผ่านมาวัคซีน BBIBP-CorV ได้ฉีดให้ประชาชนชาวจีนไปเกือบล้านคนแล้ว 6. วัคซีน : CoronaVac บริษัท : SinoVac ประสิทธิภาพ : 50.4% การทดลอง ในบราซิล พบว่าประสิทธิภาพสามารถป้องกันได้ 50.4% ในตุรกี พบว่าประสิทธิภาพสามารถป้องกันได้ 91% ในรัชเซีย พบว่าประสิทธิภาพสามารถป้องกันได้ 90% ในอินโดนเนียเซีย พบว่าประสิทธิภาพสามารถป้องกันได้ 65.3% ผลิตประเทศ : จีน จำนวนที่ใช้ : 2 โด๊ส (โดยเว้นระยะห่างระหว่างโด๊ส 2 สัปดาห์) ประเทศที่สั่งซื้อ ไทย, อินโดนีเซีย, ตุรกี, บราซิล, ฮองกง, จีน, สิงคโปร์, ฟิลิปปินส์, ชิลี, ตุรกี CoronaVac เป็นวัคซีนที่ผลิตจากบริษัทในจีน ซึ่งล่าสุดได้มีการทดสอบในประเทศบราซิล พบว่า ประสิทธิภาพของมันสามารถป้องกันโควิด 19 ได้เกือบครึ่งอยู่ที่ 50.4% แต่ในประเทศตุรกีได้ผลออกมาในระดับ 91% เลยทีเดียว โดยไทยเองก็มีการสั่งซื้อวัคซีน ตัวนี้ 2 ล้านโด๊สซึ่งจะมาถึงไทยในช่วงกุมภาพันธ์นี้ ทั้งนี้รัฐบาลไทยยังได้มีประกาศอีกด้วยว่าจะฉีดให้ประชาชนฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย 7. วัคซีน : Convidecia (Ad5-nCoV) บริษัท : Cansino Biologics ประสิทธิภาพ : -ยังไม่ทราบผล- การทดลอง เฟสที่ 1, 2 นั้นได้ผลลัพธ์ออกมาว่าวัคซีนมีความปลอดภัย รวมไปถึงสามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้ (กำลังอยู่ในช่วงทดลอง) เฟสที่ 3 ในกลุ่มประเทศจีน, รัสเซีย, ปากีสถาน, ชิลี และแม็กซิโก ผลิตประเทศ : จีน ประเทศที่ได้อนุมัติให้มีการใช้งาน จีน วัคซีน Convidecia หรือ Ad5-nCoV จากจีน ในขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการทดลองวัคซีนแล้วในกลุ่มประเทศจีน, รัสเซีย, ปากีสถาน, ชิลี และแม็กซิโก ซึ่งผลทดลองในเฟสที่ พบว่าวัคซีนมีความปลอดภัย รวมไปถึงสามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้ โดยถึงแม้วัคซีนจะยังอยู่ในการทดลองอยู่ทางรัฐบาลจีนก็ได้มีการเริ่มฉีดวัคซีนบางส่วนให้กับประชาชนแล้วประมาณ 4 – 5 หมื่นคน 8. วัคซีน : EpiVacCorona บริษัท : Vector Institute ประสิทธิภาพ : ยังไม่ทราบ ? การทดลอง เฟส 1, 2 อนุมัติอย่างเป็นทางการจากประธานีธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน เฟส 3 ที่จะทดสอบวัคซีนกับประชาชน ทดสอบอาสาสมัครไปแล้ว 1,438 เคส ผลิตประเทศ : รัสเซีย จำนวนที่ใช้ : 2 โด๊ส (โดยเว้นระยะห่างระหว่างโด๊ส 3 สัปดาห์) ประเทศที่ได้อนุมัติให้มีการใช้งาน รัสเซีย EpiVacCorona เป็นวัคซีนที่ทางรัสเซียได้อนุมัติให้ใช้งานในประเทศได้ นับว่าเป็นวัคซีนตัวที่สองที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้งานจริงอย่างเป็นทางการต่อจากวัคซีน Sputnik-V โดยการทดสอบในเฟส 3 ที่จะทดสอบวัคซีนกับประชาชนนั้นเริ่มทดสอบไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2020 ที่ผ่านมา และมีรายงานในเดือนธันวาคมว่า ได้มีการฉีดวัคซีนให้กลุ่มอาสาสมัครไปกว่า 1,438 รายแล้ว ซึ่งทางรัสเซียยังไม่มีการเปิดเผยว่า EpiVacCorona มีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อโควิด 19 เท่าไหร่อย่างแน่ชัด 9. วัคซีน : Covaxin บริษัท : Bharat Biotech, ICMR ประสิทธิภาพ : –ยังไม่ทราบผล- การทดลอง การทดลองในเบื้องได้ฉีดทดลองกับลิงและหนูแฮมเตอร์ พบว่าสามารถป้องกันเชื้อได้ ผลิตประเทศ : อินเดีย จำนวนที่ใช้ : 2 โด๊ส (โดยเว้นระยะห่างระหว่างโด๊ส 4 สัปดาห์) ประเทศที่สั่งซื้อ อินเดีย (อนุมัติให้ใช้แบบฉุกเฉินในประเทศอินเดีย) วัคซีน Covaxin ถือได้ว่าเป็นวัคซีนที่ได้วิจัยเชิงทดลองทางคลินิกของอินเดีย จากการรายงานพบว่าการทดลองวัคซีนในลิง และหนูแฮมเตอร์เป็นไปได้ดี สามารถป้องกันเชื้อโควิค 19 ได้ ในขณะนี้ วัคซีน Covaxin ก็ได้รับการอนุมัติให้ใช้ในประเทศอินเดียแล้ว