เปิดให้จองกันมาซักพักแล้วสำหรับ iPhone SE (2022) หรือว่า iPhone SE Gen3 นั่นเอง ตัวเครื่องมาในรูปลักษณ์เดิม ขนาดเดิมที่หลายคนคุ้นเคย แต่เติมสเปคใหม่เข้ามาแบบเร็วแรงของจริง นับว่าเป็น iPhone ที่ราคาย่อมเยาว์ที่สุดในไลน์อัพปัจจุบันกันแล้ว ใครที่คิดถึง iPhone บอดี้แบบนี้ที่พกง่ายใส่กระเป๋ากางเกงง่าย ๆ แชทสบายด้วยมือเดียว ในราคาประหยัด แต่ยังไม่รู้ว่ามีอะไรใหม่ในเจ้า iPhone SE รุ่นนี้กันอีกบ้าง จากการทดลองใช้จริงแล้ว Mango Zero เราขอสรุปสเปคมาให้ตามนี้เลย ดีไซน์เดิมที่คุ้นเคยในชิพเซ็ตเดียวกับ iPhone13 Pro iPhone SE (2022) ตัวนี้แม้จะอยู่ในดีไซน์เดิม แต่ชิพข้างในไม่เดิมนะจ๊ะ เพราะรุ่นนี้เขาใส่ชิพ A15 Bionic มาให้ แบบเดียวกับที่ใช้ใน iPhone13 Pro ถึงจะตัวเล็ก น่ารัก แต่ก็เปิดแอปได้ลื่นไหล เร็ว แรงไม่แพ้เพื่อนรุ่นอื่น แถมยังรองรับ 5G แล้วนะ มากับ ISO15 เรียกได้ว่าจ่ายราคานี้ แต่ก็อัปเดตกันได้อีกยาว ๆ จอเล็ก พกง่าย เหมาะกับสายมินิมอล ตัวเครื่องมาพร้อมหน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว ยังเป็น Retina HD ที่คุ้นเคย มาพร้อมปุ่ม Home ที่หายไปแล้วตั้งแต่ iPhone 12 น้องกลับมาใหม่ในรุ่นนี้ จากการทดลองพกพา น่าจะเหมาะกับคนที่ชอบพกเครื่องเล็ก ๆ ใส่กระเป๋ากางเกงได้ไม่อึดอัด สาว ๆ หยิบขึ้นมาพิมพ์แชทด้วยมือเดียวได้สบาย วัสดุแข็งแรงเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือกันน้ำกันฝุ่นได้ที่ระดับ IP67 (ความลึกไม่เกิน 1 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที) ได้เหมือนรุ่นพี่เช่นกัน กล้องตัวเดียว แต่ฟีเจอร์จัดเต็ม ตัวกล้องรุ่นนี้ใส่กล้องไวด์ ความละเอียด 12MP มาให้ พร้อมรูรับแสงขนาด ƒ/1.8 และ ซูมดิจิทัลได้สูงสุด 5 เท่า ถือว่าตัวกล้องยังเป็นฮาร์ดแวร์ตัวเดิมกับรุ่นก่อนล่ะ แต่มีการอัปเกรดฟีเจอร์โหมดถ่ายภาพอื่น ๆ เข้ามา ที่ช่วยเก็บสีแสงให้ภาพได้ละเอียดสมจริงขึ้น ทั้งโหมด Portriat หน้าชัดหลังเบลอมาให้ พร้อมโหมด Photographic Style ที่ตอนนี้มีแค่ใน iPhone 13 เท่านั้นก็ใส่มาในรุ่นนี้ด้วย งานภาพนิ่งแม้จะมาเลนส์เดียว และไม่มี Night mode หรือเลนส์ระยะอื่น แต่สำหรับบางคนที่ไม่ได้ใช้ถ่ายงานเยอะ คิดว่าไม่จำเป็น ตัวนี้ก็ยังน่าใช้งานอยู่นะ ส่วนงาน Video ถือว่าใช้ได้เลย เพราะมีโหมดกันสั่นมาให้ ค่อนข้างลื่นไหลเวลาถ่าย เก็บเสียงได้คุณภาพเหมือนกัน แถมยังอัดแบบ 4K ได้แล้ว ตัวอย่างภาพถ่ายจากสีกล้องจริง รองรับ Fast Charge และที่ชาร์จไร้สายได้แล้ว พูดถึงเรื่องแบตเตอร์รี่กันบ้าง สำหรับเจ้ารุ่นนี้สามารถเล่น VDO ได้ 10 ชั่วโมง และเล่นเพลงยาวนาน 15 ชั่วโมง ไถโซเชียลปกติได้สบาย ๆ แต่ถ้าใช้เล่นเกมแบบสายเกมเมอร์ ตีป้อมผ่าน 5G แบตก็อาจจะไหลเร็วไปนิด แต่ก็ชาร์จใหม่ไม่นาน เพราะเครื่องรองรับ Fast Charge และที่ชาร์จไร้สายได้ด้วย ชาร์จแปปเดียวไม่ถึง 30 นาทีก็ลุยต่อได้เลย สำหรับตัวกล่องน้องมาพร้อมสายชาร์จ Lightning หัว USB Type C แล้วนะ แต่ไม่ได้ให้หัวชาร์จ 20W มาให้ ต้องซื้อเพิ่ม 690 บาทเหมือนเดิมจ้า มีเคสให้เลือกใช้ได้หลายรุ่น ข้อดีของการที่ดีไซน์ตัวเครื่องออกมาเป็นรูปแบบเดิมด้วยคอนเซ็ปต์แบบรีไซเคิลดีไซน์ ทำให้เจ้า iPhone SE ตัวนี้มีเคสให้เลือกใช้ร่วมกับ iPhone ได้หลายรุ่นเลย ไม่ว่าจะเป็น iPhone SE รุ่นก่อน, iPhone 7 หรือ iPhone 8 สามารถถอดเดิมมาใช้ต่อได้เลย เหมาะขนาดเท่าเดิมเป๊ะ ๆ เลย สรุปแล้ว iPhone SE 2022 เหมาะกับใคร เหมาะสำหรับน้อง ๆ วัยเรียนหรือผู้ใช้สายประหยัดที่ต้องการอัปเกรดขยับรุ่น iPhone ที่ใช้อยู่ มาเป็นตัวเครื่องที่สเปคเร็วแรงในดีไซน์กะทัดรัด พกพาง่าย แถมได้ IOS ที่รออัปใหม่ได้อีกยาว ๆ ในราคาน่ารัก เริ่มต้นที่ 15,900 เท่านั้น
