หน้าหนาวแวะกลับมาเยือนอีกครั้ง ก็ได้เวลาทุบกระปุกไปบุกตะลุยเที่ยวก่อนจะสิ้นลมหนาวกันแล้วสินะ ซึ่งปีนี้ก็อุตส่าห์หนาวจริงๆ ทั้งที จะไม่ขึ้นเขาไปสัมผัสสายลมเย็นๆ ก็คงยังไงอยู่ ให้ไปหน้าอื่นก็คงไม่ฟินเท่าไปหน้านี้อะเนอะ Mango Zero เลยมาชวนทุกคนไปกางเต็นท์กัน ณ พิกัดกลางเขา 5 จุดนี้ บอกเลยว่าเป็นภูเขาที่ยิ่งสูง ก็ยิ่งหนาว และดาวก็ยิ่งสวย ถ้ามีใครสักคนไปด้วยก็จะยิ่งดีใหญ่ – ปะ ตามเรามาเลย ลานกางเต็นท์กิ่วลม ดอยผ้าห่มปก เชียงใหม่ ด้วยความสูงถึง 1,924 เมตรจากระดับน้ำทะเล ทำให้ลานกางเต็นท์แห่งนี้เป็นลานที่สูงที่สุดในไทย แต่ก็ใช่ว่าจะไปยาก เพราะถนนที่ทอดยาวไปถึงลานนี้ เป็นถนนที่ปูซีเมนต์เรียบร้อย 2 เลน โค้งคดบ้าง ขับระวังๆ หน่อย ไม่นานก็ถึงลาน ขับมาจากอ.ฝาง ได้เลยแบบชิลๆ โดยถนนเส้นที่ขึ้นไป จะผ่านโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ ถ้ามาถึงที่นี่แล้ว ก็อีกแค่ชั่วโมงเดียวก็จะถึงลานกางเต็นท์กิ่วลม ลานจะเปิดให้นักท่องเที่ยมาตั้งเต็นท์นอนได้ช่วงตุลาคมถึงมิถุนายนของทุกปี (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของปีนั้นๆ) แบ่งเป็น 2 บริเวณใหญ่ๆ คือลาน 1 อยู่ด้านขวา ฝั่งศูนย์บริการนักท่องเที่ยว จุดเริ่มเดินไปยอดดอยผ้าห่มปก และร้านค้า กับลาน 2 ที่อยู่ฝั่งซ้ายของลานจอดรถ ซึ่งภายในบริเวณกางเต็นท์ทั้งสองลาน มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำบริการพร้อม โดยลานอยู้ไม่ไกลจากยอดดอยผ้าห่มปกมาก เลยเป็นที่ๆ คนจะมาพักค้างคืนเพื่อเดินเท้าขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่บนยอด ซึ่งจะมีป้ายบอกทางที่ชัดเจน ไม่หลงชัวร์ ไปกลับก็แค่ 7 กิโลเมตรเอง (เฮือก!) ใครอยากขึ้นไปใกล้ชิดกับขอบฟ้ามากที่สุด เตรียมเก็บกระเป๋าแล้วพุ่งมาที่นี่ให้ไว อ้อ แต่บอกไว้นิดนึง ที่นี่จะมีลานด้านล่างที่เป็นลานน้ำพุร้อนด้วยนะ ใครจับจองที่นี่ไว้ก็อย่าเผลอขึ้นไปอีกลานด้านบนล่ะ พิกัด https://goo.gl/maps/DrtsgEZteZj8vM6f7 ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.facebook.com/Doiphahompok/ หรือโทร.084-4834689, 052-080801 ลานกางเต็นท์วิสาหกิจชุมชน ภูทับเบิก เพชรบูรณ์ ไม่ต้องถึงมือภาคเหนือ ไปแค่เพชรบูรณ์ก็ได้นอนกางเต็นท์บนภูเขาสูงๆ แล้ว ที่นี่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,768 เมตร นับว่าสูงสุดบนภูทับเบิก เพียงมุ่งหน้าจากอำเภอหล่มเก่ามายังถนนแยกทางหลวงหมายเลข 203 (หล่มเก่า) – วังบาล ตรงมาประมาณ 500 เมตร ก็จะพบกับวิสาหกิจชุมชนภูทับเบิก จุดหมายของเรา ไฮไลท์จะเป็นเวลาไหนไม่ได้นอกจากตอนกลางคืน เพราะเราจะมองเห็นแสงไฟระยิบจากบรรดาบ้านเรือนด้านล่างในอำเภอหล่มสัก มองๆ ไปก็เหมือนดาวบนดินอยู่นะ ถ้าลองมาสักครั้งก็จะรู้ว่าทำไมนักท่องเที่ยวจากทั่วแคว้นแดนไทยถึงมาเที่ยวที่นี่ จ่ายค่าบำรุงสถานที่แค่ 50 บาท/คืน ปักเต็นท์แล้วนอนได้เลย และก็ไม่ต้องกลัวว่าจะลำบากลำบน เพราะที่นี่มีบริการร้านค้า ร้านอาหาร ห้องน้ำห้องอาบน้ำ รับรองว่าสะดวกสบายหายห่วง อะ ใครอยากเบิกบานใจในหน้าหนาวนี้ ปักหมุดที่นี่ไว้เลย พิกัด https://goo.gl/maps/ozes5cNumQStZyWv6 ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.facebook.com/phutabberg หรือโทร.085-733-9737, 080-843-6195 ลานกางเต็นท์จุดชมวิวม่อนสน ดอยอ่างขาง เชียงใหม่ อีกหนึ่งแลนด์มาร์คของนักนอนเต็นท์ ด้วยความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,752 เมตร ทำให้เราสามารถสูดอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างสุดปอด (อ่าาห์) ลานนี้อยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก ใกล้กับกองร้อยทหารม้าที่ 3 ฐานปฏิบัติการดอยอ่างขาง (ที่อยู่ในเขตพื้นที่เดียวกัน) ไม่ต้องกลัวงง เพราะที่นี่มีป้ายบอกทิศบอกทางชัดเจน นอกจากนี้ยังมีจุดสังเกตเป็นร้านค้าสวัสดิการ ร้านกาแฟ และร้านอาหารของชาวบ้าน หลังศูนย์บริการนักท่องเที่ยวด้วย อะ พอมีร้านเยอะขนาดนี้ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะหิว บอกเลยว่าของกินเพียบ แถมส่วนใหญ่ยังเป็นร้านของชาวบ้านจริงๆ และยังมีเตาถ่านให้เช่า สำหรับคนที่จะทำอาหารกินเองด้วยนะ ที่นี่ยังสามารถเดินเท้าขึ้นไปยังยอดดอยผ้าห่มปกได้ในระยะทาง 3.5 กิโลเมตร หรือจะพักเอาแรงแล้วไปเที่ยวต่อที่ไร่ชาสองพัน หมู่บ้านนอแล เขาหัวโล้น เขาหัวนก ก็ไหวหมด โดยมีค่าธรรมเนียมสถานที่และค่าพื้นที่กางเต็นท์นิดหน่อย ประมาณ 50-80 บาทต่อคนต่อคืนเท่านั้น แลกกับความชิลแบบคูณร้อย คุ้มกว่านี้มีด้วยหรือ พิกัด https://goo.gl/maps/5oLvoKrPRnFXidGPA ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.facebook.com/Doiphahompok/ หรือโทร.052080801, 0844834689 ลานกางเต็นท์เอื้องเงิน ห้วยน้ำดัง เชียงใหม่ สูงจากน้ำทะเล 1,701 เมตร ไม่ได้ด้อยไปกว่าลานที่เรายกตัวอย่างมาก่อนหน้า แต่ที่นี่มีไฮไลท์คือน้ำพุที่เกิดเองตามธรรมชาติ ดอกนางพญาเสือโคร่งที่จะสะพรั่งทุกสิ้นปี และทะเลหมอกจะทำให้คุณแฮปปี้จนไม่อาจหยุดมอง อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง มีพื้นที่ครอบคลุมทั้งเชียงใหม่ และอำเภอปายที่แม่ฮ่องสอน จึงเดินทางมาที่ลานนี้ได้จากทั้งสองที่ ในเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง ซึ่งเท่ากับว่า ถ้าวางแผนเที่ยวเร็วๆ ก็คือเที่ยวในเชียงใหม่เสร็จ ตรงมานอนเต็นท์ที่นี่ แล้วมุ่งหน้าต่อไปชิลที่ปาย ก็ทำได้ครบในทริปเดียว ลานนี้มีค่าธรรมเนียมเข้าพักและค่าพื้นที่กางเต็นท์ประมาณ 50-80 บาท แบ่งเป็น 6 โซนใหญ่ๆ เปิดให้กางเต็นท์ค้างแรมได้เฉพาะเดือนตุลาคมถึงเมษายน โดยมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ร้านค้า ร้านอาหาร ห้องน้ำห้องอาบน้ำ บริการพร้อม ใน 6 ลานที่ว่า ลานที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือลาน 4 เพราะเป็นลานเดียวที่ชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นได้อย่างชัดเจน ใครอยากมีโมเมนต์ฟินๆ เอาไว้ถ่ายสตอรี่ไอจีตอนเช้าๆ เปิดเต็นท์มาเจอทะเลหมอกทันที แนะนำลานนี้เลย พิกัด https://goo.gl/maps/J9q6cQozuCmqgnXKA ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.facebook.com/huainamdang.np/ หรือโทร. 0849081531 ลานกางเต็นท์จุดชมวิว 1715 ดอยภูคา น่าน อีกจังหวัดที่เป็นหมุดหมายของนักเดินทาง ที่นี่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,715 เมตร ตามชื่อจุดชมวิว โอบล้อมด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติดอยภูคา (ซึ่งเป็นอุทยานที่ใหญ่สุดของน่าน) ขับรถมาจากที่ทำการอุทยานราวๆ 8 กิโลเมตร ก็ถึงเลย มีจุดสังเกตเป็นป้าย 1715 ตัวใหญ่เบิ้มๆ ยังไงก็ไม่หลง โดยบริเวณจุดชมวิว 1715 นี้เป็นลานกางเต็นท์ที่มีพื้นที่ไม่มาก ไม่ได้กว้างขวางอะไร แต่ก็ใกล้กับจุดที่ชมพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้าที่สุด รวมถึงจุดชมทะเลหมอกด้วย ซึ่งเขาว่าถ้าอยากเห็นทะเลหมอก ต้องมาช่วงหน้าฝน แต่คนที่รอไม่ไหว อยากไปในหน้าหนาวนี้ ก็ไปเลยเหอะ เพราะหนาวสะใจแน่ๆ แม้จะไม่เห็นทะเลหมอกหนาขนาดนั้น ความที่อุทยานนี้ใหญ่มากกก เที่ยวให้ทั่วคงต้องใช้เวลาหลายวัน ใครที่มากางเต็นท์นอนที่นี่ ก็สามารถขับรถเที่ยวต่อในบริเวณรอบๆ ได้แบบสุดชิล โดยมีไฮไลท์ให้ต้องแวะไปถ่ายรูปเป็น ‘ต้นชมพูภูคา’ ที่ใครๆ ก็บอกว่าเป็นพระเอกของย่านนี้ ทว่าก็บานแค่เวลาสั้นๆ ในช่วงกุมภาพันธ์ถึงมีนาคมเท่านั้น ใครอยากพากายมาพัก พาใจมาหย่อน ลองมาที่นี่ดู จะรู้ว่าชิลจริง พิกัด https://goo.gl/maps/AoMMQpLvz7hARqkS9 ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.facebook.com/อุทยานแห่งชาติดอยภูคา-Doi-Phu-Kha-National-Park-150911621976611 หรือโทร.0821941349
