ในวันที่พิษไวรัส COVID-19 ทำให้หลายสิ่งเปลี่ยนไป เมื่อความใกล้ชิดต้องมากกว่า 1 เมตร ความสะอาดคือเรื่องสำคัญ และเทคโนโลยีคือความหวังครั้งใหม่ สิ่งเหล่านี้ถูกว่า “New Normal” หรือความปกติใหม่ ที่เราต้องปรับตัวและกลายเป็นเรื่องธรรมดาในท้ายที่สุด ตัวเอกในขณะนี้จึงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก “เทคโนโลยี” เพราะไม่เพียงแต่ช่วยย่นระยะความสัมพันธ์ ทำธุรกรรมออนไลน์โดยไม่ต้องจับธนบัตร หรือรวมร้านค้าทั้งหลายไปไว้ในโทรศัพท์หนึ่งเครื่องเพียงเท่านั้น แต่ยังยกระดับเรื่องความอนามัยได้มากขึ้น ด้วยเทคโนโลยีโฉมใหม่ไร้สัมผัส (Contactless Technology) ที่พัฒนาโดย KASIKORN Business – Technology Group (KBTG) ซึ่งวันนี้ทาง Mango Zero จะพาไปดูกันว่าเทคโนโลยีนี้ทำอะไรได้ และจะช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างไรบ้าง Contactless Technology คืออะไร เทคโนโลยีไร้สัมผัส (Contactless Technology) แค่ชื่อก็พอจะเดาได้ว่าเป็นการนำเทคโนโลยีมาเชื่อมกับสิ่งต่างๆ เพื่อเป็นการล็อคและปลดล็อครหัสผ่าน รวมไปถึงการทำธุรกรรมต่างๆ โดยไม่เกิดการสัมผัสระหว่างคนและสิ่งของ ไม่ว่าจะเป็นการจดจำใบหน้า (Face Check-in) หรือการจดจำท่าทาง (Gesture Control) ซึ่งในอนาคต ก็อาจมีการพัฒนาไปเป็นการตรวจจับพฤติกรรมต่างๆ (Behaviour Detection) พื้นที่นั้นหนาแน่นไหม พวกเขาอยู่ใกล้กันมากเกินไปหรือเปล่า มีการตรวจจับด้วยตา (Eye Tracking) หรือกระทั่งการสั่งการด้วยเสียง (Voice Command) ซึ่งเมื่อทุกอย่างพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ แล้ว จะทำให้รอบตัวเรากลายเป็น Ambient Intelligence นั่นคือการที่ทุกสิ่งรอบตัวเอื้ออำนวยความสะดวกกับ User Experience เรียกได้ว่าทุกสิ่งเกิดขึ้นเหมือนแอบอ่านใจเราเลยทีเดียว ปลอดภัยกว่าใครด้วย Face Check-in ในงานนี้ ทาง KTBG ได้เปิดตัว Face Check-in เป็นการสแกนใบหน้าแทนการใช้บัตรประจำตัวพนักงาน (Automated Employee Head Count) ความพิเศษที่ตอบรับวิถีชีวิต New Normal นี้คือ พนักงานจะยังสามารถสแกน และระบุตัวตนได้แม้จะใส่หน้ากากอนามัยอยู่ และทำได้แม้กระทั่งเตือนให้ใส่ก่อนเข้าทำงาน หากสแกนแล้วไม่พบหน้ากากอนามัยบนหน้า (Mask Detection) สำหรับในอนาคต อาจต่อยอดเป็นการทำธุรกรรมต่างๆ ด้วยการใช้ใบหน้าได้ อาทิ การจ่ายเงินซื้อสินค้า หรือ KLox นวัตกรรมตู้ล็อกเกอร์เพียงแค่สแกนใบหน้าก็ปลดล็อกตู้และชำระค่าเช่าล็อกเกอร์ได้เลย ซึ่งเครื่องนี้เปิดใช้จริงแล้วที่ K+ สามย่าน ส่วนเรื่องความปลอดภัยนั้น ก็มั่นใจได้อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะระบบคอมพิวเตอร์จะแปลงหน้าเราเป็นเวคเตอร์กลายเป็น 512 digit เมื่อเทียบกับการใส่รหัสผ่านในปัจจุบันที่มี 4-6 digit เพียงเท่านั้น ReKeep ใบเสร็จที่รักทั้งเรา รักษ์ทั้งโลก อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นแหล่งที่อยู่ของเชื้อโรค แต่เราสัมผัสกันทุกวันโดยไม่รู้ตัว นั่นก็คือ “ใบเสร็จสินค้า” นั่นเอง แม้จะทำให้หงุดหงิดใจเพราะไม่รู้จะนำไปทำอะไรต่อ แต่ก็ต้องมีเพื่อเก็บเป็นสิ่งยืนยัน หรือใช้ประกอบการทำบัญชีในภายหลังอยู่ดี ทาง KBTG เลยปิ๊งไอเดีย เกิดเป็น “ReKeep” ใบเสร็จดิจิทัลสำหรับทุกร้านค้า วิธีนี้นอกจากจะลดกระดาษ (ที่ไม่ใช่ธนบัตร) ในกระเป๋า เก็บได้นานเนื้อความไม่เลอะเลือนแล้ว ยังรักษ์โลกด้วยการลดการใช้กระดาษ (Paperless) อีกด้วย วิธีการก็เพียงสแกน QR Code ผ่าน ReKeep หลังจากเลือกซื้อสินค้าและชำระเงินเรียบร้อยแล้ว ก็จะได้ใบเสร็จในรูปแบบดิจิทัล เป็นไฟล์ภาพบนโทรศัพท์มือถือทันที ทั้ง Face Check-in และ ReKeep นั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีโฉมใหม่ไร้สัมผัสที่พัฒนาขึ้นโดย KASIKORN Business – Technology Group (KBTG) จากการพยายามสร้างนวัตกรรมและพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คนไทยปลอดภัยจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และฟื้นฟูศักยภาพทางเศรษฐกิจและธุรกิจไปพร้อมกัน ในวันที่ New Normal เข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิต สิ่งสำคัญคือการดูว่าในอนาคต อะไรคือสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เป็นหน้าที่ของเราที่ต้องสังเกตความเป็นไป เรียนรู้ ลองสร้างสรรค์ วัดผล และแบ่งปันความรู้ให้กัน เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และสิ่งเหล่านั้นจะกลายเป็นสิ่งปกติในอนาคต ที่จะทำให้ชีวิตเราดีขึ้นอย่างปกติต่อไป
