ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา “สตาร์ทอัพ” กลายมาเป็นคำคุ้นหูที่ใช้เรียกธุรกิจใหม่ๆ ที่ใช้นวัตกรรมมาอำนวยความสะดวกให้กับคนในชีวิตประจำวันของเรา ไม่ว่าจะเป็นตอนนั่งดูทีวีอยู่ในบ้าน เดินทางออกไปทำงาน หรือออกไปเที่ยวหรือกิจกรรมไหนๆ ก็มักจะมีสินค้าและบริการที่ช่วยอำนวยความสะดวกแม้แต่ในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อยู่เสมอ ธุรกิจสตาร์ทอัพจึงกลายมาเป็นที่สนใจทั้งในหมู่นักธุรกิจรุ่นใหม่และคนที่อยู่ในวงการธุรกิจมายาวนาน และสำหรับชาว Mango Zero ที่กำลังให้ความสนใจกับธุรกิจสตาร์ทอัพอยู่ แต่ยังคงมองว่าเป็นเรื่องยาก ไม่ว่าจะด้วยไอเดียที่ยังไม่แน่นพอ เงินทุนน้อย หรือความรู้เรื่องการทำธุรกิจเป็นศูนย์ วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับ KATALYST โครงการพัฒนาศักยภาพธุรกิจสตาร์ทอัพจากธนาคารกสิกรไทย (KBank) ที่จะช่วยให้ผลักดันให้ไอเดียของหลายๆ คนกลายเป็นจริงได้ง่ายขึ้น ไปดูกัน! KATALYST คืออะไร? งานวิจัยจาก Forbes และ Statista เรื่อง “เหตุผลที่สตาร์ทอัพล้มเหลว” ระบุว่าความท้าทายในการทำธุรกิจสตาร์ทอัพมีอยู่ด้วยกันหลายประการ โดย 3 อันดับแรกคือ ไม่มีตลาดรองรับ คิดเป็น 42% รองลงมาคือขาดเงินลงทุน 29% ขาดทีมงาน 23% ส่วนความท้าทายอื่นๆ เช่น ถูกคู่แข่งแซงหน้า, ปัญหาการตั้งราคา, ผลิตภัณฑ์หรือบริการไม่ตอบโจทย์, ขาด Business Model ที่ดี และ Marketing ไปไม่ถึงตลาด นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงเกิด KATALYST ขึ้น! KATALYST จะมาเป็นเหมือนเพื่อน ที่ปรึกษา และพันธมิตรให้กับเหล่าสตาร์ทอัพ เพื่ออุดรูรั่วที่อาจทำให้ธุรกิจไปไม่ถึงฝั่งฝัน สร้างจุดเริ่มต้นและช่วยกันผลักดันธุรกิจสตาร์ทอัพให้เติบโตไปในตลาดทั้งในไทยและต่างประเทศนั่นเอง สร้างโอกาสให้ธุรกิจแบบครบวงจร สิ่งแรกที่ KATALYST พร้อมจะช่วยเหลือเหล่านักธุรกิจสตาร์ทอัพทั้งหลายก็คือการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ อย่างที่บอกไปว่าปัญหาอันดับต้นๆ ของการจะทำธุรกิจสตาร์ทอัพก็คือการขาดโอกาส เงินทุนและทีมงาน ในโครงการนี้เหล่านักธุรกิจรุ่นใหม่จะได้มีโอกาสร่วมคิด ออกแบบและพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ลูกค้า โดยมีทีมจาก KBank มาร่วมลงมือทำไปพร้อมๆ กัน นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้ขยายเงินทุนผ่านบริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด หนึ่งในบริษัทร่วมลงทุนของ KBank ด้วย และสำหรับทีมงานก็มีการดูแลผ่านเมืองไทยประกันชีวิต เพิ่มความมั่นใจด้านสุขภาพและชีวิตให้กับ “คน” ฟันเฟืองที่สำคัญที่สุดในการทำธุรกิจไปพร้อมๆ กัน มีเทคโนโลยีล้ำๆ ให้ใช้ เราจะเห็นว่า KBank เป็นผู้ให้บริการด้านการเงินที่มีการผลักดันเรื่องธุรกิจสตาร์ทอัพ ไปพร้อมๆ กับการสร้างสังคมดิจิทัล (Digital Ecosystem) มาตลอด ใน KATALYST ก็เช่นเดียวกัน บริษัทที่เข้าร่วมโครงการนี้จะได้รับโอกาสในการลองเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะมาช่วยอำนวยความสะดวกให้ธุรกิจเป็นไปอย่างลื่นไหลมากขึ้น เช่น ระบบ API (Application Pragram Interface) ที่ถูกนำมาใช้เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชั่นเพื่อให้ทั้งผู้ให้บริการและลูกค้าสามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้สะดวกและรวดเร็วกว่าเดิม เติมเต็มความรู้ อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจสตาร์ทอัพยังคงเป็นเรื่องยากสำหรับใครหลายๆ คนก็คือ การไม่มีความรู้ครอบคลุมเพียงพอในทุกๆ ด้านที่จำเป็นต่อการทำธุรกิจ และนั่นทำให้ KATALYST ถูกออกแบบมาให้เป็นผู้ให้ความรู้และคำปรึกษากับนักธุรกิจรุ่นใหม่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแผนการตลาด การมองหาตลาดเพื่อขยายธุรกิจ รวมไปถึงเรื่องที่หลายคนไม่ถนัดอย่างข้อกฎหมายธุรกิจสตาร์ทอัพ ก็มีผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายอย่าง Baker McKenzie มาช่วยให้คำปรึกษา นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมศึกษาดูงานต่างประเทศที่พาออกไปเปิดโลกธุรกิจสตาร์ทอัพเพื่อค้นหาไอเดียใหม่ๆ อีกด้วยนะ สร้างเครือข่ายทางธุรกิจ การเข้าร่วมโครงการ KATALYST เป็นอีกโอกาสสำหรับนักธุรกิจรุ่นใหม่ในการเข้าไปทำความรู้จักคนในวงการธุรกิจสตาร์ทอัพ รวมไปถึงเหล่าผู้บริหารจากบริษัทชั้นนำในกลุ่มอุตสาหกรรมที่เราสนใจ และแน่นอนว่านี่เป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้แลกเปลี่ยนความรู้ รวมไปถึงสร้างเครือข่ายธุรกิจและนำไปต่อยอดกับธุรกิจของตัวเองในอนาคตได้ด้วย! ให้ KATALYST ช่วยคุณ! ปัจจุบันมีบริษัทที่เข้าร่วมโครงการ KATALYST เช่น FlowAccount, Bulkone, Horganice และ Shippop สำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมได้ตั้งแต่ตอนนี้เลย!!! โดยทำตามขั้นตอนดังนี้ เข้าไปที่เว็บไซต์ https://katalyst.kasikornbank.com คลิก Let’s Meet แนะนำตัวพร้อมกับแชร์ไอเดียและโมเดลธุรกิจของตัวเองทิ้งไว้ จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับเพื่อชวนมาพูดคุยและให้คำปรึกษา มาเดินหน้ายกระดับธุรกิจสตาร์ทอัพไทยไปพร้อมๆ กัน!
