category 7 สัญญาณบ่งบอกว่าคุณติดของหวานเข้าแล้ว

Writer : incwaran

: 15 สิงหาคม 2562

สำหรับบางคน ความสุขในแต่ละวันก็คือการได้กินของหวาน ทั้งกินหลังมื้ออาหาร หรือกินตลอดเวลาจนเยอะกว่ามื้อหลักไปเลย ยิ่งตอนนี้หันไปทางไหนก็มีแต่ร้านขนมหวาน จะต้านทานต่อความน่ากินยังไงไหว

เข้าใจว่าชีวิตขาดหวานไม่ได้ แต่กินเยอะเกินไปจะไม่ดีต่อสุขภาพ ถ้าใครมีสัญญาณเหล่านี้ที่บอกว่าร่างกายติดของหวานเข้าแล้ว ก็คงต้องบอกของหวานให้ห่างกันสักพัก เพราะการลดของหวานไม่ใช่แค่การลดความอ้วน แต่เป็นการรักษาสุขภาพของเราเอง

กินของหวานเท่าไหร่ก็ไม่พอ

กินนิดๆ หน่อยๆ ให้พอหายอยากและไม่เกินปริมาณน้ำตาลที่ร่างกายต้องการต่อวันก็โอเค แต่ถ้ากินเท่าไหร่ก็ไม่พอ เห็นของหวานเมื่อไหร่เป็นต้องพุ่งเข้าใส่แม้จะไม่หิว ต้องมีของหวานตุนไว้ตลอดเวลา นั่นแปลว่าติดของหวานแล้วนะ 

มีข้ออ้างให้ตัวเองเวลาจะกินของหวาน

เวลาจะกินของหวานแต่ละทีต้องมีข้ออ้าง อย่าง ‘Low Sugar ไม่อ้วนหรอก’ ‘ไม่เป็นไร นานๆ ที’ ‘เดี๋ยวค่อยไปออกกำลังกายก็ได้’ ก็เพราะเรารู้อยู่แล้วว่ามันไม่ดีต่อสุขภาพ และเราเริ่มจะกินของหวานมากเกินไป แต่ทำไงได้ ก็มันน่ากินเกินห้ามใจ เลยต้องมีข้ออ้างไม่ให้ตัวเองรู้สึกผิด 

กินของหวานเพื่อให้รางวัลตัวเอง

จะฉลองอะไรก็ต้องไปกินของหวานทุกที หรือทำอะไรนิดๆ หน่อยๆ สำเร็จก็จะกินของหวานเป็นการให้รางวัลตัวเอง ไปจนถึงการใช้ของหวานเป็นแรงจูงใจในการจะทำอะไรสักอย่าง ยิ่งถ้าตั้งกฎกับตัวเองว่าหลังออกกำลังกายจะได้กินของหวานล่ะก็ ขอให้เลิกเลย เพราะไม่ใช่การให้รางวัลแต่เป็นการติดของหวานแล้วล่ะ

มีอีกกระเพาะสำหรับของหวาน

ถึงจะอิ่มแค่ไหน แต่ถ้ามีคนชวนกินของหวานเมื่อไหร่ก็พร้อมเสมอ ไม่ใช่เพราะมีอีกกระเพาะสำหรับของหวานแต่เป็นเพราะเราติดของหวานแล้วต่างหาก

กินของหวานเพื่อให้อารมณ์ดี

อาจจะเคยได้ยินมาว่ากินของหวานแล้วจะอารมณ์ดี ทีนี้พอเครียดเมื่อไหร่ก็ต้องไปหาของหวานมากิน เราอาจจะอารมณ์ดีเพราะได้ตอบสนองความอยากของหวานของตัวเอง แต่จริงๆ แล้วเป็นวิธีคลายเครียดที่ไม่ถูกต้อง ดีต่อใจแต่ไม่ดีต่อสุขภาพน้า

อยากกินอาหารรสจัด

อาหารรสจัดในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเผ็ด แต่เป็นอาหารที่มีรสเค็ม หรือรสอื่นๆ นอกจากรสหวาน เพราะร่างกายเริ่มส่งสัญญาณบอกว่าเราว่าพอก่อนกับของหวาน ฉันต้องการสารอาหารอย่างอื่นบ้างแล้ว

จะงดของหวานแต่ร่างกายไม่เห็นด้วย

พอถึงเวลาจะลดของหวานจริงๆ จังๆ ร่างกายก็ดันต่อต้านซะอย่างนั้น ไม่ว่าจะรู้สึกเครียด หงุดหงิด อ่อนเพลีย รู้สึกว่ายากเกินไป พยายามจะลด ละ เลิกของหวาน แต่พอทำไม่สำเร็จก็ยิ่งกลับมากินเยอะกว่าเดิมไปอีก ลองค่อยๆ ลดทีละนิด อย่าหักดิบเกินไป เพราะร่างกายจะปรับตัวไม่ทัน

ที่มา sweetdefeat, thejakartapost

Writer Profile : incwaran
Blog : Social Media : Facebook, Twitter
View all post

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save