วันนี้ (23 พ.ค.2562) มีรายงานว่า ภายหลังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญประชุมพิจารณากรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลวินิจฉัยคุณสมบัติของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กรณีการถือครองหุ้นในบริษัทวี-ลัค มีเดีย จำกัด ซึ่งเข้าลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. และเป็นเหตุให้สภาพการเป็นส.ส. สิ้นสุดลง ศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติมีมติเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 มีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย และแจ้งให้ผู้ร้องทราบและส่งสำเนาคำร้องให้ผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง สำหรับคำขอของผู้ร้องมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรค 2 ศาลพิจารณาคำร้องและเอกสาร ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 8 ต่อ 1 สั่งให้นายธนาธรหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามที่กกต. ร้องขอ ตาม มาตรา 82 วรรค 2 ด้วย ทั้งนี้ นายธนาธรได้ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กของตัวเอง มีเนื้อความว่า ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ฟันธนาธร ไปก่อน แล้วค่อยสืบสวนข้อเท็จจริงทำสำนวนทีหลัง ทำแบบนี้ ก็ได้หรือ ???? เมื่อวานนี้ (22 พฤษภาคม 2562) พยานของผม 2 คนในการโอนหุ้นวี-ลัค ได้รับจดหมายหนังสือเชิญไปให้ถ้อยคำ ฉบับลงวันที่ 17 พฤษภาคม 2562 จากคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนของ กกต. (ชุดเดียวกับที่ผมได้ไปให้ถ้อยคำกับ อ.ปิยบุตร เมื่อวันที่ 30 เมษายน) และจดหมายเพิ่งถูกจัดส่งเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2562 ทุกท่านครับ คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนของ กกต. ชุดนี้ เป็นคณะกรรมการที่ทำหน้าที่สอบสวนข้อเท็จจริงหลังแจ้งข้อกล่าวหาให้ยุติ จึงจะเสนอต่อคณะอนุกรรมการฯ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นเกี่ยวกับคำร้อง เมื่อคณะอนุกรรมการฯ ลงมติให้ความเห็นเกี่ยวกับคำร้องแล้ว กระบวนการสุดท้าย สำนวนคำร้องจึงจะไปอยู่ในชั้นพิจารณาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อพิจารณาวินิจฉัยว่า จะยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ หรือไม่ต่อไป ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา กกต. ได้ยื่นคำร้องคดีนี้ต่อศาลรัฐธรรมนูญ ไปแล้ว ทั้ง ๆ ที่การสืบสวนไต่สวนข้อเท็จจริงตามสำนวนคำร้องนี้ ยังไม่เสร็จสิ้น หลังจาก กกต. ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญแล้ว เพิ่งจะเรียกพยานของผมไปให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการสืบสวนฯ ทั้ง ๆ ที่เป็นประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการพิจารณาความสมบูรณ์ของการโอนหุ้น คำร้องที่ กกต. ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมานี้ ตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงที่ยังไม่ยุติในประเด็นที่เป็นสาระสำคัญ คณะกรรมการสืบสวนฯ ยังเรียกสอบพยานอยู่ แต่ กกต. ชุดใหญ่ ท่านลงมติและยื่นคำร้องต่อศาลไปก่อน มีข่าวว่า วันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะมีมติเกี่ยวกับการรับคำร้อง/ไม่รับ คำร้องที่ยังไม่เสร็จของ กกต. คดีนี้ 8 มกราคม ผมกลับจากบุรีรัมย์ มาก กทม. โดนใบสั่งอยู่หลายใบ หลายท่านแซวกันว่าคนขับรถของผมเร่งรีบซิ่งเหยียบมิดรีบกลับ กทม. จนเกินไปแล้ว แต่เมื่อเจอกรณีนี้ของ กกต. แล้ว การเหยียบซิ่งของคนขับรถผมกลายเป็นเต่าคลานไปเลย – กกต. ท่านไวกว่า กกต. ท่านยิงไนตรัสด้วย จะรีบไปไหน งานนี้ กกต. ท่านไม่โดน “ใบสั่ง” (ค่าปรับ พ.ร.บ.จราจร) ก็จริงครับ พฤติการณ์ของท่านอาจไม่ขัด พ.ร.บ.จราจร แต่อาจขัด ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ พรป.กกต. มาตรา 69 ฐานใช้อำนาจโดยมิชอบหรือไม่ เรื่องนี้ #น่าครุ่นคิดนะครับ ที่มา : ThaiPBS