category จุดเริ่มต้นและ 5 ประโยชน์ของการ "แก้ผ้า" อาจจะมีอะไรมากกว่าที่คุณคิด

Writer : pearlkeira

: 4 กุมภาพันธ์ 2560

cover-being-naked

หน้าหนาว….. ฮัลโหลล หน้าหนาวประเทศไทยหายไปไหนแล้ว!!!! แถมตอนนี้ยังดูเหมือนอากาศก็แปรปรวนหนัก ร้อนขึ้น ร้อนขึ้นทุกวัน ไหนๆ ถ้าจะมันจะมีแต่ความร้อนขนาดนี้แล้ว ก็ ถอด ถอด ถอด มันซะเลยดีกว่า!!!

แต่เดี๋ยวก่อน… จริงๆแล้ว การถอด ก็เหมือนกับการที่มนุษย์เราได้กลับสู่จุดเริ่มต้นทางธรรมชาติอีกครั้ง เป็นสัญลักษณ์ของความเท่าเทียมกัน และถ้ามองในทางวิทยาศาสตร์เอง การไม่ใส่เสื้อผ้า ก็มีประโยชน์กับร่างกายและจิตใจอยู่หลายข้ออีกด้วย

ถอด ถอด สตอรี่ เริ่มมาจากไหน?

ในอดีตกาลย้อนไปถึงจุดเริ่มต้นทางประวัติศาสตร์ของการเปลื้องผ้า เราอาจจะต้องย้อนยาวไปถึงคู่ในตำนานจากไบเบิ้ล ผู้เป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวในโลกนี้มากมายอย่าง อดัม กับ อีฟ โดยจะเรียกว่า “ถอด” หรือ “เปลื้อง” ก็อาจจะไม่ถูกซะทีเดียว เพราะทั้งคู่เกิดมาแบบ “เปลือยกาย” อยู่แล้ว โดยปราศจากความอับอายแก่กัน ซึ่งหากเรามองการเปลือยกาย ด้วยสายตาที่ปราศจากตัณหา ก็จะพบว่านี่เป็นหนึ่งใน “สถานะเริ่มต้น” ของมนุษย์นั่นเอง (อ้างอิง “Adam and his wife were both naked, and they felt no shame.” Genesis 2:25)

adam-eve
อดัม และ อีฟ เกิดมากับร่างกายเปลือยเปล่า – courtauld

ถัดมาอีกซักหน่อย แม้มนุษย์มีการอยู่รวมกันแบบเป็นสังคมแล้ว แต่ก็ยังคงสถานะการเปลือยกายไว้อยู่ เช่น เริ่มตั้งแต่ยุคอียิปต์โบราณ ที่การเปลือยกายในที่สาธารณะถือเป็นเรื่องปกติ หรือในยุคกรีกโบราณ การเปลือยกายเปรียบได้กับเครื่องหมายแห่งวีรบุรุษ (แมนๆ คุยกัน) นักกีฬาในช่วงยุคบุกเบิก ก็แข่งกันแบบไม่ใส่เสื้อผ้า หรือกลุ่มนักรบสปาร์ตาก็มีการฝึกร่างกาย และฝึกฝนการรบแบบไม่ใส่เสื้อผ้าเช่นกัน

Ancient Greek athletes practice their skills.

นักรบกรีกโบราณฝึกฝนการต่อสู้ด้วยร่างกายเปลือยเช่นกัน – theslnaturist

 

ถอดกันต่อในโลกยุคใหม่

ถัดมาในโลกยุคปัจจุบัน ก็มีอีกหลายเหตุการณ์สำคัญเกี่ยวกับ การเปลือยกาย หรือการปลดเปลื้องผ้า โดยถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ทั้งทางมนุษยชน ศิลปะวัฒนธรรม หรือทางการเมือง ในเยอรมันและฝรั่งเศสมีการก่อตั้ง nudist group หรือ กลุ่มคนเปลือยกาย! อยู่หลายองค์กร และในช่วงปี 1930s ก็มีการเสนอให้เรียก “nudism” ซึ่งหมายถึง การเปลือยกาย ที่ฟังดูเซ็กซี่และอาจถูกตีความไปในแง่ลบได้เนี่ย เปลี่ยนเป็นคำว่า “naturism” ซึ่งหมายถึง ความเชื่อว่าการไม่สวมเสื้อผ้าจะเป็นธรรมชาติและมีสุขภาพที่ดีกว่า ถือเป็นช่วงที่การเปลือยกายอาบแดด ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศอังกฤษ และแถบยุโรป

naturists-sunbathing-London
วัฒนธรรมการนอนอาบแดดของกลุ่ม naturism ในลอนดอน ประเทศอังกฤษ – BBC

ต่อมาไอเดียเกี่ยวกับการเปลือยกาย และการกลับคืนสู่ธรรมชาติของมนุษย์เริ่มกระจายไปมากขึ้นเรื่อยๆ มีกลุ่มชาวเยอรมันที่อพยพไปอเมริกา หลังสงครามโลกครั้งที่สอง นำไอเดียไปเผยแพร่ในแถบอเมริกา และเริ่มได้รับการยอมรับในวงกว้าง อย่างเช่นเกิดเป็นวัฒนธรรมกลุ่ม ฮิปปี้ ที่เรารู้จักกัน หรือในทางศิลปะเอง ในช่วงหลังปี 2000s มีศิลปินชาวอเมริกัน Spencer Tunick จัดแสดงงาน Installation Art หรืองาน ศิลปะจัดวางครั้งใหญ่โดยมีอาสาสมัคร 28 คนเปลือยร่างนอนอยู่ที่หน้าตึก UN ในแมนฮัตตัน สหรัฐอเมริกา โดยผู้เข้าร่วมบอกว่าผู้คนดูสบายใจ ไม่ว่าจะแก่ หรือเด็ก ก็เท่าเทียม เหมือนทุกคนได้กลับคืนสู่จุดสามัญ โดยที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญเกี่ยวกับวัฒนธรรมการ เปลือยกาย ที่ฮือฮาไปทั่วโลก

Spencer-Tunicks-installation-at-Max-Joseph-Platz-in-Munich-1
งานศิลปะจัดวางที่ใช้ผู้คนเปลือยร่างมาเป็นส่วนรวม ของศิลปิน Spencer Tunick ที่จัตุรัสแมกซ์ – โจเซฟ ประเทศเยอรมนี – widewalls

แม้การนำเสื้อผ้ามาใส่บนเรือนร่างของมนุษย์ จะกลายเป็นหลักประพฤติปฏิบัติสากลไปแล้ว แต่ถ้าเรามองข้ามความล่อแหลม หรือเรื่องทางเพศไป แล้วมาทำความเข้าใจกันให้ลึกซึ้งขึ้น ก็จะเห็นว่ามนุษย์ใกล้ชิดกับการเปลือยกายมาตั้งแต่เราเกิดด้วยซ้ำ และจริงๆ แล้วการเปลือยกาย ก็มีประโยชน์ทั้งทางร่างกาย และจิตใจมากกว่าที่เราอาจนึกออก…

 

5 ประโยชน์ของการ เปลือยกาย เปลื้องผ้า

 

1.สวยขึ้น เพราะผิวดูเปล่งปลั่งสุขภาพดี

1.good skin

การที่เราใส่เสื้อผ้าอยู่ตลอดเวลานั้น อาจทำให้เกิดการระคายเคืองจากผ้า หรือมีผดผื่นคันได้ หรือเวลาที่เหงื่อออก แทนที่จะระเหยไป แล้วอะไรมาปิดอยู่ตลอดเวลาทำให้ผิวดูดซึมสารพิษของเสียที่ออกมาพร้อมเหงื่อเรากลับเข้าไปอีก แต่การเปลือยการช่วยให้ผิวเราได้รับออกซิเจนมากขึ้น เหมือนได้ดีท็อกซ์ผิว และช่วยให้ผิวเราดูเปล่งปลั่งสุขภาพดีขึ้น

 

2.รับวิตามิน D จากแสงแดด เสริมแคลเซียม เสริมภูมิ

2.vitamin d sun

การเปลือยกายภายใต้แสงแดดอุ่นๆ ในเวลาที่พอดี รังสี UV จากแสงแดดจะทำปฏิกิริยากับน้ำมันที่ผิวหนัง แล้วเปลี่ยนเป็นวิตามิน D ที่ไปช่วยทั้งผิว และเสริมแคลเซียมกระดูกให้แข็งแรงขึ้น รวมถึงยังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิต้านทาน ให้เราแข็งแรงหรือไม่ไวต่อเชื้อไวรัสต่างๆ หรือไม่เป็นหวัดง่ายขึ้นด้วย  ลองเปลื้องผ้าอาบแดด 10-15 นาทีก็ถือเป็นไอเดียที่ไม่เลว

 

3.ช่วยให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น

3.heart circulation

หลายๆ คนคงจะนึกออกเวลาที่คนเป็นลม เราจะปฐมพยาบาลด้วยการปลดกระดุม ไม่ให้เสื้อผ้ารัดตัว และพาผู้ป่วยไปอยู่ในที่อากาศถ่ายเท ก็เหมือนกับเวลาที่เราใส่เสื้อผ้าอยู่ โดยเฉพาะชุดชั้นในที่รัดตัว ทำให้ร่างกายมีความกดดันเพิ่มขึ้น การเปลือยกายจะช่วยให้ระบบการไหลเวียนของเลือดได้ถูกปลดปล่อยเป็นอิสระและทำงานได้ดีขึ้นอีกครั้ง!

 

4.ช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น

4.better-sleep-naked

ในระหว่างวันเรามักจะคอยทำให้ตัวเองอบอุ่น แต่พอเวลานอนจริงๆ แล้วเราควรให้ร่างกายได้คูลดาว หรือลดอุณภูมิลง โดยมีงานวิจัยชี้ว่าการจะนอนหลับให้ได้อย่างมีคุณภาพนั้น ระดับอุณหภูมิที่เหมาะสมคือประมาณ 65 ฟาเรนไฮต์ (18 องศาเซลเซียส) และการที่เรานอนแก้ผ้า ก็ช่วยให้ร่างกายได้ผ่อนคลายและปรับระดับอุณหภูมิลดลงอย่างเหมาะสม (แต่ถ้าใครหนาวอาจใช้ตัวช่วยอย่างถุงเท้าก็ได้)

 

5.เราจะรักตัวเองมากขึ้น

5.Love-your-body
แคมเปญสนับสนุนให้ผู้หญิงภูมิใจรูปร่างของตัวเอง จาก โดฟ

“การเปลือยกาย” ช่วยให้เรามีความมั่นใจ และมีความภาคภูมิใจในตนเองมากขึ้น เพราะเราค่อยๆ ยอมรับตัวเองในแบบที่เป็น สมบูรณ์แบบในฉบับของเราเอง แทนที่จะมัวเป็นกังวลกับรูปลักษณ์ภายนอก ไม่ว่าจะผอม จะอ้วน จะขาว จะดำ เราจะภูมิใจกับสิ่งที่เราเป็นมากขึ้น และเรียนรู้ที่จะ “รักตัวเอง” มากขึ้นเช่นกัน

หวังว่าเราจะเริ่มเห็นประโยชน์จากการ “ถอด” ทั้งกับสุขภาพกายและใจกันแล้ว ก็ขอเชิญชวนให้ลองปล่อยใจ เปิดกาย แล้วรับประโยชน์จากแก้ผ้ากันถ้วนหน้านะจ๊ะ 😀

ที่มา – BBCscribdspencertunickwidewallstodaytlcthrillist


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save