หลังจากที่ได้มีการผลักดันมาอย่างยาวนาน ล่าสุดในวันนี้ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาก็ได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยเรื่องการครอบครองกัญชาอย่างถูกกฎหมาย โดยผู้ถือครองสามารถขึ้นทะเบียนได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยต้องมีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขในประกาศ โดยประกาศเกี่ยวกับเรื่องนี้ทั้ง 3 ฉบับ ระบุการนิรโทษครอบครองกัญชา โดยมีรายละเอียดดังนี้ ฉบับที่ 1 คือ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การกำหนดให้ยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชาตกเป็นของกระทรวงสาธารณสุข หรือให้ทำลายกัญชาที่ได้รับมอบจากบุคคล ซึ่งไม่ต้องรับโทษ ตามมาตรา 22 แห่ง พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7 ) พ.ศ. 2562 ฉบับที่ 2 ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องการครอบครองยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชา สำหรับผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องใช้เพื่อรักษาโรคเฉพาะตัว ก่อน พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7 ) พ.ศ. 2562 ใช้บังคับให้ไม่ต้องรับโทษ ฉบับที่ 3 ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การแจ้งการมีไว้ในครอบครองกัญชา สำหรับผู้มีคุณสมบัติตามมาตรา 26/5 และบุคคลอื่นที่มิใช่ผู้ป่วยตามมาตรา 22 (2) ก่อน พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7 ) พ.ศ. 2562 ใช้บังคับให้ไม่ต้องรับโทษ กล่าวคือบุคคลที่ไม่ใช่กลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 2 ซึ่งทั้ง 3 ฉบับให้มีผลบังคับใช้ในวันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา ทั้งนี้ ผู้มีคุณสมบัติตามกฎหมายใหม่ มี 7 กลุ่ม คือ 1️. หน่วยงานของรัฐ 2️. ผู้ประกอบวิชาชีพ 3️. สถาบันอุดมศึกษาเอกชน (ทางแพทย์/เภสัชศาสตร์) 4️. ผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมที่รวมตัวเป็นวิสาหกิจชุมชน 5️. ผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศ 6️. ผู้ป่วยเดินทางระหว่างประเทศ 7️. ผู้ขออนุญาตอื่น ซึ่งการขออนุญาตต้องมีแบบแจ้งการครอบครอง (ยส.5) โครงการวิจัย (ถ้ามี) และเอกสารอื่น ๆ ตามประเภทของผู้ยื่นคำขอ ดังนี้ กรณีเป็นหน่วยงานรัฐ ต้องมีหลักฐานแสดงความเป็นหน่วยงานของรัฐ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องแสดงใบประกอบวิชาชีพ สถาบันอุดมศึกษา หลักฐานแสดงการเป็นสถาบันอุดมศึกษาที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการวิจัยและการเรียนการสอนที่เกี่ยวกับการแพทย์หรือเภสัชศาสตร์ ผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ต้องมีหนังสือจดทะเบียนกลุ่มเกษตรกรตามกฎหมาย เอกสารแสดงความร่วมมือและดำเนินการภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานรัฐหรือสถาบันการศึกษา ผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศ ต้องมีเอกสารจดทะเบียนการดำเนินการขนส่งระหว่างประเทศ ผู้ป่วยเดินทางระหว่างประเทศ ต้องมีหนังสือเดินทาง เอกสารเดินทางเข้าและออกจากประเทศไทย และใบรับรองแพทย์ หรือหนังสือรับรองแพทย์ สำหรับผู้ป่วย ที่มีความจำเป็นต้องใช้กัญชาในการรักษาโรคตัวเอง และมีกัญชาดังกล่าวในครอบครองก่อน 19 กุมภาพันธ์ 2562 ผู้ป่วยหรือผู้แทน ต้องมายื่นคำขอ “บันทึกแจ้งการมีไว้ในครอบครองฯ” ทั้งนี้ผู้ที่ต้องการครอบครองต้องยื่นหนังสือแจ้งการครอบครอง โดยแจ้งได้ที่ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กรณีอยู่ในกรุงเทพฯ หรือแจ้งได้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด หรือ สสจ. ทั่วประเทศ กรณีอยู่ต่างจังหวัด โดยถ้ามีข้อสงสัยสามารถติดต่อได้ที่สายด่วน 1556 กด 3 ในเวลาราชการ ที่มา : ราชกิจจานุเบกษา ฉบับที่ 1, ฉบับที่ 2, ฉบับที่ 3