เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกคนนั้นล้วนมีความกลัว ไม่ว่าจะกลัวความล้มเหลว กลัวความเหงา กลัวที่มืด กลัวที่สูง กลัวการพูดหน้าชั้นเรียน กลัวทำสิ่งนู่นนี่ไม่ได้ หรือแม้แต่การกลัวการไม่ถูกเป็นที่รัก ซึ่งแท้จริงแล้วความกลัวและความกังวลต่างๆ มันคือส่วนหนึ่งของชีวิตที่ยากจะสลัดทิ้งไป ดังนั้น จะดีกว่ามั้ยหากเรารู้จักควบคุมความกลัวได้อย่างชาญฉลาด ทำให้เราใช้ชีวิตได้ตามที่ต้องการเพื่อนำเราไปสู่ความสำเร็จได้อย่างมั่นใจ ไปดูกันว่า 3 วิธีที่จะช่วยให้เราเอาชนะปีศาจแห่งความกลัวและความกังวลนั้นมีอะไรบ้างค่ะ “จงทำในสิ่งที่คุณกลัว แล้วความกลัวนั้นจะค่อยๆ ทลายหายไป” – Ralph Waldo Emerson 1. รับรู้และตีกรอบให้กับความกลัว เริ่มด้วยการรับรู้ความกลัวและถามไปให้สุดว่าอะไรคือสิ่งที่แย่ที่สุดของความกลัวนั้น การเมินเฉยหรือการปฏิเสธความกลัวเป็นเรื่องง่าย แต่การเข้าถึงความกลัวของตัวเองโดยมองว่ามันมีจุดเริ่มต้นและจุดจบ จะช่วยให้รู้ว่าเรามีพลังงานมากพอที่จะจัดการกับมันได้ ยิ่งถ้าเราสามารถมองเห็นความกลัวได้อย่างเป็นรูปร่างชัดเจนแล้ว เมื่อใดที่มันกำลังส่งผลกระทบต่อตัวเรา เราก็จะจดจำ รับรู้และรับมือกับสิ่งนั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลองจินตนาการถึงสิ่งที่เรากลัว หรือเมื่อเกิดความกลัวละความกังวลขึ้นมา ให้ถามให้สุดว่าสิ่งที่แย่ที่สุดที่เราต้องเจอกับความกลัวนั้นคืออะไร สิ่งที่คุณกลัวนั้นอันตรายจริงๆ หรือไม่ ความกลัวอาจเป็นรูปแบบอารมณ์หนึ่งที่ดีและปกป้องเราจากอันตรายก็ได้ โดยการทำให้เราหลีกเลี่ยงสิ่งต่างๆ ที่เป็นอันตราย ตัดสินดูว่าคุณมีเหตุผลที่ดีที่จะกลัวหรือไม่ เหตุเกิดจากความไม่เข้าใจ คนเราเกิดความกลัวเพราะไม่เข้าใจเหตุผลและความจริง เช่น กลัวผีในความมืด หากเปิดไฟให้สว่างมองเห็นว่าไม่มีผีก็ไม่กลัวแล้ว 2. เผชิญหน้ากับความกลัว ความกลัวจะถูกลดหรือหายไปก็ต่อเมื่อเราเรียนรู้ที่จะเผชิญหน้ากับมัน เพราะความกลัวไม่เคยลดหรือหายไปจากการที่เราหนีหรือหลีกเลี่ยง ยิ่งหนีความกลัวจะยิ่งขยายตัวให้ใหญ่ขึ้น เนื่องจากความกลัวทำให้มองเห็นปัญหายุ่งยากเกินจริง ทั้งที่จริงปัญหานั้นอาจจะไม่ยากเย็นหรือหนักหนาสาหัสเหมือนรู้สึกในขณะที่กลัวก็ได้ ให้คุณลองเผชิญหน้าความกลัว ซึ่งเป็นวิธีเอาชนะปีศาจแห่งความกลัวได้ดีที่สุด โดยเฉพาะถ้ามีบุคคลหรือเหตุการณ์ที่กลัวอย่างเฉพาะเจาะจง และไม่ลืมบอกกับตัวเองว่าทุกอย่างมันจะผ่านไป ยิ่งกล้ายิ่งได้ ยิ่งเรากล้าที่จะเผชิญหน้าแห่งความกลัวได้มากเท่าไหร่ เส้นประสาทและกล้ามเนื้อแห่งความกล้าหาญจะเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ความรู้สึกเชื่อมั่นในตนเองเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะทำให้เรามีความกล้าที่จะมุ่งไปสู่เป้าหมาย และพยายามทำสิ่งนั่นให้สำเร็จ เตรียมใจเผื่อให้ความล้มเหลว เพราะการเผชิญหน้ากับความกลัวความอาจจะไม่ได้มีบทสรุปแห่งชัยชนะเสมอไป ดังนั้นเราควรตระหนักรู้ถึงผลที่จะเกิดขึ้นด้วย 3. ให้ความกลัวเป็นสิ่งที่น่าหลงใหล ลองเปลี่ยนให้ความกลัวเป็นเพื่อนสนิทและสิ่งที่น่าหลงใหล เพราะไม่มีทางหรอกที่จะกำจัดความกลัวออกไปได้ทั้งหมด เช่นเดียวกับที่อารมณ์ของความสุขหรือความเศร้า แต่ให้เราลองเปลี่ยนความกลัวเป็นสิ่งที่น่าหลงใหล นั่นคือเหตุผลว่าทำไมคนเราถึงได้สนุกไปกับกีฬาผาดโผน ภาพยนตร์สยองขวัญ หรือแม้แต่การว่ายน้ำไปกับปลาฉลามในวันหยุด ลองมองความกลัวในแง่มุมใหม่ที่เป็นเชิงบวก แล้วดูว่าสิ่งนั้นให้ความรู้สึกต่างออกไปอย่างไร เริ่มมองความกลัวให้เป็นโอกาส เมื่อคุณรู้สึกกลัวบางสิ่งที่ไม่คุ้นเคย ให้มองสิ่งนั้นเป็นเหมือนสัญญาณที่บอกว่า คุณจำเป็นต้องทำความรู้จักบุคคลนั้นหรือสถานการณ์นั้นให้มากขึ้น หากคุณมีความรู้สึกกลัวเกี่ยวกับกำหนดเส้นตาย หรือเหตุการณ์ที่กำลังจะมาถึงให้มองว่าเป็นโอกาสที่คุณจะวางแผนเตรียมตัวให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มเขียนรายงาน การซ้อมบทละคร หรือการพูดในที่สาธารณะ เฉลิมฉลองให้แก่ชัยชนะของคุณ ในแต่ละขั้นของความสำเร็จ เมื่อไรที่เห็นว่าตัวเองรู้สึกดีแค่ไหนที่ได้อยู่เหนือความกลัวนั้นๆ แสดงว่าคุณพร้อมแล้วที่จะประจันหน้ากับสิ่งต่อไปที่คุณกลัวนั่นเอง “สิ่งที่น่าอัศจรรย์ที่สุดสำหรับมนุษย์ ก็คือการได้ทำในสิ่งที่คิดว่าไม่มีทางทำได้ สำเร็จ” — Henry Ford ภายใต้ความกลัวมักมีโอกาสที่ยิ่งใหญ่รออยู่เสมอ เมื่อไหร่ก็ตามที่เราสามารถเอาชนะสิ่งที่เรียกว่าความกลัวหรือกังวลที่เป็นเพียงมายาคติได้ เมื่อนั้นประตูแห่งความสำเร็จก้ไม่ไกลเกินเอื้อมค่ะ ขอบคุณข้อมูลจาก – wikihow, feel the fear and do it anyway
