Nintendo Switch ที่เปิดจำหน่ายมาได้สักพักแล้วในต่างประเทศ สำหรับคนไทยหลายคนที่ใจร้อนก็ต้องซื้อเครื่องหิ้วกันมาเล่นก่อน (แน่นอนว่าทีมงาน Mango Zero ก็เช่นกัน) สำหรับราคาเปิดขาย Nintendo Switch อย่างเป็นทางการอยู่ที่ 299.99$ หรือประมาณ 10,000 บาทหน่อยๆ หรือถ้าสอยเครื่องหิ้วราคาตอนนี้จะอยู่ที่ประมาณ 17,000 บาท พร้อมเกมสองแผ่น มีให้เลือกสองแบบ คือ แบบที่เป็นจอยสีเทา-ดำ และแบบที่เป็นจอยสีแดง-น้ำเงินตามในภาพ แง้มกล่องมาก็มีอธิบายเล็กน้อยเกี่ยวกับการชาร์จ การต่อพ่วงอุปกรณ์ต่างๆ เปิดมาปุ๊ป จะพบกับอุปกรณ์สามชิ้นตามนี้ เป็นจอยสติ๊กสีฟ้าและสีแดงอย่างละชิ้น และตัวเครื่องขนาด 6.2 นิ้ว หน้าตาคล้าย Tablet ความละเอียดอยู่ที่ 1280 x 720 และเป็นจอสัมผัส หยิบจอยออกมาดูก่อน มีขนาดค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับมือผู้ชาย จอยทั้งสองจะมีปุ่ม 4 ปุ่ม และก้านอนาล็อกเหมือนกัน แต่จะอยู่คนละตำแหน่งบนล่างสลับกัน เท่าที่ลองจับดูเบื้องต้น สัมผัสเป็นแบบพลาสติกมากๆ ไม่ค่อยรู้สึกพรีเมียมเท่าไหร่ ด้านบนเป็นปุ่ม L และ R เท่าที่ลองใช้จอยโดยการจับสองมือ รู้สึกว่าจอยค่อนข้างเล็กจิ๋ว จับไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะผู้ชายมือใหญ่ๆ อาจจะลำบากไปหน่อย ด้านข้างมีปุ่ม L และ R เช่นกัน พร้อมไฟบอกสถานะ ที่เห็นว่ามีปุ่ม L, R เยอะ เพราะว่าเราสามารถเล่นจอยนี้ได้หลายท่า ลองอ่านตามต่อไปเรื่อยๆ มาดูที่จอกันบ้าง จอขนาด 6.2 นิ้ว ถือว่าค่อนข้างใหญ่อยู่เหมือนกันนะสำหรับเกมพกพา ขนาดใหญ่กว่า PS Vita ชัดเจนเลย ด้านข้างสองฝั่งสามารถประกอบร่างกับจอยได้ครับ แบบนี้ ชะแว้บบบบบ กลายเป็นเครื่องเล่นพกพา ขนาดค่อนข้างกว้างอยู่พอสมควรเลย จับกระชับมือดี แอบรู้สึกขัดใจตรงจอยด้านขวา เพราะเมื่อเราเอานิ้วโป้งไปวางบนปุ่ม A B X Y มันจะวืดไปโดนก้านอนาล็อกด้วย เมื่อต้องการเอาออกก็ให้กดปุ่มเล็กๆ สีดำ ที่อยู่ด้านหลังเครื่อง ด้านล่างของตัวเครื่องมี Port USB Type C สำหรับชาร์จไฟ และเสียบกับ Dock ด้านบนซ้ายมีปุ่มเปิด/ปิดและปุ่ม เพิ่ม/ลด เสียง มุมขวาบน มีช่องสำหรับใส่เกมที่เป็นการ์ด ขนาดจะประมาณ SD Card ด้านหลังหน้าตาเป็นแบบนี้ ด้านซ้ายล่างคือช่องใส่ SD Card นั่นเอง สามารถเพิ่มความจุให้เครื่อง Nintendo Switch ได้ มาเปิดกล่องดูอุปกรณ์กันต่อครับ ชิ้นนี้จะเป็นสายคล้องข้อมือ เพราะว่าจะมีบางเกมที่ต้องเหวี่ยงจอยไปมา ซึ่งตรงนี้ทำให้ปลอดภัยจากเหตุการณ์จอยบินได้มากขึ้น และเพิ่มความถนัดในการจับจอยอีกด้วย เพราะจะทำให้จอยมีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย เมื่อประกอบร่างกันแล้วจะเป็นแบบนี้ ทำให้จับกระชับมือ และรู้สึกปลอดภัยจากการหล่นมากขึ้น อุปกรณ์ต่อมาคือตัว Grip สำหรับนำจอยมาเสียบรวมกัน หน้าตาจะออกมาแบบนี้ ตรงนี้ค่อนข้างรู้สึกว่าขนาดกำลังดี และเป็นรูปแบบจอยที่จับแล้วกระชับมือที่สุด โดยเราจะใช้งานในลักษณะนี้ก็ต่อเมื่อเรานำตัวเครื่องมาตั้งเป็นจอ หรือเสียบตัวเครื่องเข้ากับ TV แล้วใช้จอยเล่น อุปกรณ์ถัดมาคือตัว Dock ครับ (แหม่ อุปกรณ์เยอะจริงๆ เครื่องนี้) ด้านล่างของตัว Dock จะมี Port USB Type C สำหรับเสียบกับตัวเครื่อง เพื่อต่อเข้ากับจอ TV อีกครั้งหนึ่ง เมื่อเสียบแล้วจะเป็นแบบนี้ครับ ตัวเครื่องจะโผล่มาหน่อยนึง จะเห็นเวลาและแบตเตอรี่ ด้านหลังจะมีช่องสำหรับเสียบพอร์ต HDMI เพื่อต่อเข้ากับจอ และสายชาร์จแบตเตอรี่ ด้านข้าง Dock มีช่องเสียบ USB ด้วยครับ อันนี้น่าสนใจว่าเค้าจะมีอุปกรณ์อะไรที่ทำเพิ่มเติมหรือเปล่า สายที่เสียบกับตัว Dock เมื่อปิดฝา สายจะถูกเก็บอย่างสวยงามครับ อันนี้เท่ จอยทั้งสองข้างที่ใช้แบตเตอร์รี่ เราก็จะสามารถชาร์จไฟได้ด้วยการนำมาเสียบแบบนี้เท่านั้น ไม่สามารถชาร์จแยกได้ สำหรับเกมผมได้แถมมากับเครื่องสองเกมครับ คือ 1-2 Switch และ The Legend of Zelda: Breath of the Wild กล่องเบอเร่อ เปิดออกมาตัวเกมมีขนาดเล็กประมาณ SD Card เท่านั้น แต่ก็เข้าใจนะว่าถ้าทำกล่องเกมออกมาเล็กๆ แล้วมันต้องหายแน่นอน และแบบกล่องใหญ่ก็น่าเก็บสะสมมากกว่าด้วย แน่นอนว่าเครื่อง Nintendo Switch รองรับ amiibo ด้วยครับ ซึ่งเป็นจุดเด่นของเครื่องเกม Nintendo เลย สำหรับใครที่ยังไม่เคยเล่น amiibo คือตัวละครพิเศษที่เราสามารถเพิ่มเข้าไปได้ โดยการใช้ amiibo สแกนเข้าไป (เฉพาะเกมที่รองรับ amiibo เท่านั้น) เป็นการพรีวิวแบบคร่าวๆ หลังจากทีมงาน Mango Zero ลองสัมผัสหลังจากที่ได้รับเครื่องมา เดี๋ยวขอตัวทีมงานไปเล่นกันแบบจัดเต็ม แล้วเดี๋ยวจะเอารีวิวมาให้ชมทั้งภาพทั้งคลิปเลย ติดตามกันได้ที่ www.facebook.com/mangozero เลยจ้าาาา