ผู้ใหญ่มักมีกุสโลบายที่เราฝังใจตั้งแต่ตอนเด็กๆ จนมาถึงตอนนี้ความเชื่อเหล่านั้นก็ยังคงอยู่กับเรา เผลอกินเมล็ดผลไม้ลงไปก็ยังคิดขึ้นมาเล่นๆ ว่า “เห้ย ซวยแล้ว จะโตในท้องหรือเปล่าเนี่ย” คำเตือนเหล่านี้แฝงด้วยความอบอุ่นน่ารัก ที่เป็นห่วงเราทั้งสิ้น ถึงแม้ตอนเด็กๆ หรือกระทั่งตอนนี้จะงงๆ แต่พอนึกย้อนไปก็อดขำไม่ได้ ใครมีคำสอนจากคุณพ่อ, คุณแม่แบบไหนบ้าง มาแชร์กันด้วยนะ : D ถ้าร้องเพลงตอนกินข้าวจะได้สามีแก่ บนโต๊ะอาหารสุดเงียบ บางครั้งก็ไม่มีใครคุยกัน เราจึงขอสร้างความบันเทิงให้มื้ออาหารพิเศษยิ่งขึ้น หรือบางทีทำนองเพลงติดหูก็ดันมาตอนกำลังตักข้าวเข้าปาก จึงขอร้องคลอระหว่างตักกับข้าวและเคี้ยวข้าวอยู่ซะเลย พอคำเตือนนี้ตามมา เราเลยหยุดร้องและเคี้ยวข้าวเงียบๆ ทำไมไม่รู้ตอนเด็กๆ คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่มากกับการมีแฟนแก่ แต่พอโตมาถึงได้รู้ว่าแฟนแก่ ก็ดีกว่าไม่มีนะแม่ แงงงง คนปีนต้นมะพร้าวไม่ได้ มีแค่ลิงเท่านั้นที่ปีนได้ คำเตือนนี้มีที่มาแม่คงกลัวเราไปปีนต้นไม้แล้วจะตกลงมาแข้งขาหักอันตราย เลยพูดป้องกันไปเลยว่า “ไม่มีมนุษย์คนไหนปีนไม่ได้หรอก มีแต่ลิง” เราเลยเข้าใจมาตลอดว่าความสามารถแบบนี้มีแค่เจ้าลิงเท่านั้น แต่พอโตขึ้นมาดูผ่านทีวี หรือแค่เดินผ่านต้นมะพร้าวก็มีคนปีนอยู่นะ เอ๊ะ ยังไงกัน หนูงงแล้วแม่ ~~ เห็นรุ้งแล้วอย่าชี้ เดี๋ยวนิ้วกุด รุ้งกินน้ำสีแสนสวยแบบในการ์ตูน พอเราเห็นก็อยากแชร์ให้แม่ดูความสวยงามของธรรมชาติบ้าง แต่พอเราชี้กลับโดนตีมือว่า “เดี๋ยวนิ้วกุด” ทำให้โตมาเห็นรุ้งหลังฝนตกทีไรก็แค่มองและถ่ายรูปลงโซเชียลพอไม่กล้าชี้แล้วจ้า กลัว ซึ่งเหตุผลน่าจะเป็นเพราะ รุ้งกินน้ำ เป็นปรากฏการณ์หลังฝนตก คุณแม่เลยกลัวว่าเราจะไปตากน้ำค้างหรือฝนจนไม่สบายนั่นเอง ห้ามใส่หมวกในที่ร่มเดี๋ยวจะหัวล้าน ตอนเด็กๆ ดูการ์ตูนตัวเอกทุกตัวก็ใส่หมวกกันตลอดเวลา บางตัวใส่นอนเลยด้วยซ้ำไม่เห็นเป็นไร ทำไมพอหนูใส่แม่บอกจะหัวล้าน ?? แต่หลังจากคำเตือนนี้ออกมา หนูก็เชื่อแม่มากกว่า ซาโตชิ ในโปเกมอน และไม่กล้าใส่หมวกไปพักนึงเลยทั้งในร่มและกลางแดด เพราะโดนขู่ว่าตื่นเช้ามาแล้วหัวจะล้านไม่รู้ตัว แล้วเพื่อนที่โรงเรียนจะล้อเอา กินเมล็ดผลไม้เข้าไปแล้วจะไปโตในท้อง ก็ว่าระวังดีแล้วนะ แต่บางทีมันพลาด พอเผลอกินเข้าไปปุ๊บ ก่อนนอนก็ต้องมานอนเครียด ข่มตาให้หลับก็ไม่ไหว กลัวตอนเช้ามีต้นไม้โผล่ออกมาจากสะดือ ทำไงดี จะต้นใหญ่ไปเหมือนแจ็คผู้ฆ่ายักษ์หรือเปล่า ? แล้วดึงออกมาจะเจ็บไหม ? ขอให้เช้าพรุ่งนี้ตื่นมาไม่มีอะไรเกิดขึ้นทีเถอะ คร่อกกกก ห้ามมีแฟน เดี๋ยวเรียนไม่จบ ความรักเป็นสิ่งสวยงาม แต่คุณแม่คงกลัวเราหลงไปกับความสวยงามจนการเรียนจะเสีย เลยทำนายไว้ว่า ถ้าหนูมีแฟนจะเรียนไม่จบนะ ตอนใกล้สอบเข้ามหาวิทยาลัยหรือตอนสอบเครียดๆ ก็มักหยิบขึ้นมาพูด แต่ถ้าหนูไม่มีแฟนตอนเรียนแล้วทำงานหนูก็ไม่มีทำไงดีละแม่ ?? จริงๆ คุณแม่คงแค่เป็นห่วงว่าจะจัดการเวลาไม่ได้ จริงๆ แล้วถ้าเจอความรักที่ดีและคุณแม่รับรู้จริงๆ แล้วคำเตือนกึ่งคำทำนายจากคุณแม่ก็คือว่าไม่เป็นผลเท่าไหร่หรอกเนอะ หัามตัดเล็บตอนกลางคืนเดี๋ยวอายุสั้น จนมาถึงตอนนี้พอมืดค่ำทีไร ก็ไม่กล้าตัดเล็บอีกแล้ว กลัวว่ามันจะตัดอายุเราไปด้วย แต่จริงๆ เป็นเพราะสมัยก่อนยังไม่ค่อยมีไฟฟ้า คุณแม่คงจะกลัวว่าเดี๋ยวจะไปตัดโดนเนื้อเข้า เลยบอกให้เราตัดตอนยังมีแสงดีกว่าจะได้ปลอดภัยนั่นเอง ห้ามเล่นเงา, ซ่อนแอบตอนกลางคืน อันนี้ก็ทำเอากลัวจนหลอนหลับตาปี๋ไปตลอดทั้งคืนเช่นกัน ทำมือเป็นรูปนกกับกำแพงอยู่ แม่ก็บอกว่าเดี๋ยวก็โดนดึงตัวไป เลยต้องรีบคลุมโปงแล้วนอนให้เร็วที่สุด จริงๆ น่าจะเพราะคุณแม่อยากให้รีบพักผ่อนนอนหลับนั่นเอง ส่วนเรื่องซ่อนแอบก็น่าจะเป็นเพราะเล่นมืดๆ เดี๋ยวจะอันตรายเข้า อย่าเคาะตะเกียบตอนกินข้าว เมื่อเป็นเด็ก หยิบจับอะไรก็เอามาตีเป็นกลองชุด ยิ่งตะเกียบมีสองอันและชามข้าวก็เหมือนหน้ากลองเราก็ไม่พลาดที่จะขอเคาะสร้างสเต็ปความมันตอนกินข้าว ซึ่งสิ่งที่หม่าม๊าจะเตือนเราก็คือ “อย่าตีนะ!! เคาะตะเกียบตอนกินข้าวเรียกคนตายมากิน” พอได้ยินดังนั้น ความกลัวก็เข้ามาแทนที่สายเลือดนักดนตรี ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ครอบครัวคนจีนที่ใช้ตะเกียบเป็นหลักในการทานอาหาร อาจต้องการตักเตือนให้ลูกๆ มีมารยาทในโต๊ะอาหารดีๆ การเคาะตีเสียงดัง และนำอาหารมาเล่นอาจไม่ใช่เรื่องเหมาะควรนัก คำเตือนนี้จึงเป็นการขู่ที่ได้ผลดีเยี่ยม (และทำให้เรากลัวมากๆๆ เช่นกันว่าตีไปแล้ว ทำไงดีเนี่ยยย ??) ห้ามกินข้าวเยอะตอนเย็น เดี๋ยวจะอ้วน อันนี้คือคำสอนที่เป็นดังเหมือนปรัชญาในการใช้ชีวิต เป็นเรื่องจริงที่ทำไม่เคยได้ เวลาที่ดีที่สุดในการพบปะสังสรรค์คือตอนเย็น มื้อเช้า, มื้อกลางวันจะอาหารรสชาติงั้นๆ แต่พอมื้อเย็นจะอร่อยจนหยุดกินไม่ได้ สิ่งนี้ที่แม่เตือนเป็นจริงที่สุด แต่เราก็ทำไม่ได้ที่สุดเช่นกัน เพราะแม่เองนี่แหละที่จะทำมื้อเย็นที่เป็นของโปรดให้เราด้วย หมูหวานสูตรเด็ด, ต้มยำสูตรคุณย่า, ข้าวผัดสามสีแสนอร่อย ก็จัดมาเสิร์ฟในตอนเย็นเช่นกัน นับว่ามีความย้อนแย้งในการสอนอยู่ไม่น้อย ว่าแต่ว่า เย็นนี้แม่จะทำอะไรให้กินนะ ??
