หลายครั้ง ที่เราต้องรู้สึกเหนื่อยล้ากับชีวิต ทั้งงานที่ทำให้ปวดหัว ปัญหาต่างๆ ที่รุมเร้า เราหวังเพียงจะมีใครอีกคนมาแบ่งเบาและรับฟังด้วยความรักและเต็มใจ.. แต่เดี๋ยวก่อนนะ (!) เราโหยหาความรักจากคนอื่นขนาดนั้นเลยเหรอ? เรามัวแต่เสียเวลาตามหาและกำลังเดินในเส้นทางที่ผิดหรือเปล่า? ในเมื่อคนที่จะรักเราได้ง่ายที่สุด ก็คือตัวเราเอง ทำไมเราถึงอกหัก? “อาการอกหักกำลังระบาดและพบเห็นได้ทั่วไปตามโซเชียลมีเดีย แต่ทำไมเราถึงอกหักล่ะ?” บางคนบอกว่า การอกหัก ก็คือความผิดหวังที่เกิดจากเรื่องของความรัก แสดงว่าหากเราไม่คาดหวังเราก็คงจะไม่ผิดหวัง หรือว่าเราจะอกหักเพราะเรากำลังคาดหวังอะไรบางอย่างจากความรักอยู่นะ? ในมุมวิทยาศาสตร์ : อาการอกหัก เป็นอาการที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสื่อประสาทในสมอง เมื่อเราอกหัก สมองจะขาด ฟีนิลเอธิลามีน (Phenylethylamine) ซึ่งเป็นสารที่ทำให้ร่างกายตื่นตัว มีเรี่ยวแรง และหยุดหลั่งสารเอนโดรฟินที่เป็นสารแห่งความสุข เราเลยมีอาการเหมือนคนติดยาเสพติดที่หยุดใช้อย่างเฉียบพลัน ซึ่งสารเอนโดรฟิน (Endorphine) นอกจากจะทำให้เรามีความสุขแล้ว ยังเป็นสารที่ช่วยลดความเจ็บปวดได้ด้วย ดังนั้นเมื่อร่างกายหยุดหลั่งสารนี้ ความเจ็บปวดจึงส่งถึงสมองได้เพราะไม่มีอะไรมาระงับไว้ (จาก www.dek-d.com ) แล้วทำไมเราต้องมีคู่ ? “จะคู่หรือคี่ก็อร่อยเหมือนกันแหละน่า #นั่นมันโฆษณาคุกกี้ ! “ ในอดีต มนุษย์เราจำเป็นต้องหาคู่เพื่อการสืบพันธ์และดำรงไว้ซึ่งสายพันธ์ุ การแต่งงานหรือการมีคู่จึง เป็นเหตุผลหนึ่งทางวิทยาศาสตร์ (เพราะไม่อย่างนั้นมนุษย์ก็จะสูญพันธ์ุไงล่ะ!) แต่ในสมัยนี้นอกจากเรื่องของวิทยาศาสตร์แล้ว ยังมีเรื่องของหัวใจศาสตร์อีกด้วย เรามองการมีคู่เป็นสิ่งที่จะช่วยระบายความเหงา เราเห็นคนมีคู่ เราก็รู้สึกอยากจะมีบ้าง เพราะคิดไปว่ามันต้องดีกว่าถ้ามีใครอีกคนเพิ่มเข้ามา บางครั้ง บางคนก็ใช้เวลาโฟกัสกับสิ่งเหล่านี้มากเกินไป เห็นจากเพื่อนบางคนที่มีหน้าที่การงานที่ดี มีนิสัยและหน้าตาดี แต่มัวยึดติดอยู่กับการไม่มีแฟน จนบางทีก็เหมือนเป็นการปิดตาตัวเองไม่ให้เห็นสิ่งดีๆ ที่มีอยู่ #ก็น่าเสียดาย จริงๆ แล้ว คนที่จะรักเรามากที่สุด ก็คือตัวเราเอง “ก่อนจะตามหาความรักจากคนอื่น ลองย้อนถามหนึ่งที ว่าเรารักตัวเราเองมากพอหรือยัง?” “The person you really need to marry by Tracy McMillan” คือ Ted Talk ที่อยากแนะนำให้ได้ฟังกัน : ว่าด้วยเรื่องของผู้หญิงคนหนึ่งที่มีความคิดมาตั้งแต่เด็กว่า “ความสัมพันธ์ = ความรัก + การแต่งงาน + การมีลูก” แต่พอโตมากลับไม่เป็นอย่างนั้น เพราะชีวิตเธอผ่านการแต่งงานและหย่าร้างมาทั้งหมดถึง 3 ครั้ง (ไม่นับรวมถึงความสัมพันธ์ที่เจ๊งกะบ๊งไปอีก 2) เธอคิดกับตัวเองมาตลอดว่าเธอแค่เลือกแต่งงานกับคนที่ไม่ใช่หรืออาจเป็นผู้ชายที่ไม่ดี.. แต่จริงๆ แล้วมันไม่เกี่ยวเลย เพราะสุดท้ายอดีตสามีของเธอก็ไปลงเอยกับคนที่น่ารักและมีความสุข หลังการหย่าครั้งที่ 3 เธอตระหนักได้ว่าจริงๆ แล้วคนที่เธอควรจะแต่งงานด้วยเพื่อที่จะมีความสัมพันธ์ที่ดีและมีความสุขที่สุด.. ก็คือตัวเธอเอง เพราะคนที่จะอยู่กับเราไปจนตาย ทั้งเวลาทุกข์เวลาสุข จนหรือรวย ไม่ว่าชีวิตจะอยู่ที่จุดไหน คนคนนั้นที่จะยังอยู่กับเรา ก็คือตัวเราเองนั่นแหละ แล้วอยู่ตัวคนเดียว.. มันมีดียังไงบ้าง? “ไม่ได้จะให้เป็นโสดขึ้นคานไปตลอดชีวิต แต่อยากให้เป็นโสดกันแบบสุขๆ #ลองคริสดู “ ความโสดไม่ใช่จุดจบของโลก เรายังมีอะไรให้ทำอีกเยอะแยะ ทั้งการงานที่ต้องพัฒนา ทักษะความสามารถที่อยากเรียนรู้ รวมถึงเป้าหมายต่างๆ ในชีวิตที่ยังไปไม่ถึง การที่เราเป็นโสดก็เป็นอีกทางที่เราจะได้ใช้เวลาโฟกัสกับตัวเองเสียที ได้เริ่มทำสิ่งที่อยากทำให้สำเร็จ เช่น บางคนอาจตั้งใจไว้ว่าจะอ่านหนังสือปีละ 50 เล่ม แต่ตอนมีคู่มัวแต่ใช้เวลาด้วยกันจนไม่ได้อ่าน นี่ก็จะเป็นเวลาที่จะได้ทำตามเป้าเสียที ไม่มีแฟน แต่ก็ยังมีครอบครัวนะ รักแรกของทุกคนรออยู่ที่บ้าน หากเรารู้สึกท้อใจกับสิ่งที่ทำอยู่ หรืออาจจะแค่เหงาและอยากหาคนให้กอดให้อ้อน เชื่อว่าแค่โทรศัพท์กลับบ้านก็จะได้รับความอบอุ่นเหมือนรักแรกที่เราโหยหาจากพ่อแม่ตอนเด็กๆ ไงล่ะ แต่พอโตมาเราอาจจะหลงลืมความรู้สึกนั้นไป เพราะมัวแต่มองหาความอบอุ่นใหม่ที่คาดหวังจะได้รับจากคนอื่น มีเวลาได้ทบทวนจิตใจตัวเอง อย่างที่บอกว่าคนที่จะรักเราที่สุดก็คือตัวเราเองนี่แหละ ช่วงเวลาที่เราอยู่ตัวคนเดียวเป็นช่วงที่ดีในการจะได้ย้อนคิดถึงเรื่องราวต่างๆ ที่ได้เจอมา และให้อภัยตัวเองกับสิ่งที่ได้ทำพลาดไป รวมถึงอภัยให้กับเรื่องที่คนอื่นเคยทำเราเสียใจด้วย เพราะฉะนั้น ไม่ว่าวันนี้จะเป็นโสด หรือจะเพิ่งอกหักมา ลองมองโลกให้กว้างกว่าเดิม อย่ายึดติดกับสถานะความสัมพันธ์ ลองเริ่มจากรักตัวเองให้มาก ทำตัวเองให้ดี ใช้ชีวิตให้มีความสุข แล้วตอนนั้นเสน่ห์จะฉายออกจากตัวเราจนมีคนที่รักในแบบที่เราเป็นเราเข้ามา : ) Ted Talk คือ เวทีที่เป็นพื้นที่สำหรับเผยแพร่ไอเดียที่มีคุณค่าผ่านการ Talk ภายในเวลาสั้นๆ โดยผู้พูดที่มีประสบการณ์และอยากแบ่งปันเรื่องราวที่มีคุณค่านั้นไปสู่ผู้คนเป็นวงกว้าง