ในโลกนี้ไม่มีอะไรหยุดนิ่งอยู่กับที่ ธรรมชาติทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา แม้กระทั่งร่างกายของเราเองที่หลายคนมักใส่ใจแค่เพียงภายนอก แต่หารู้ไม่…จริง ๆ แล้วบางส่วนข้างในอาจกำลังต้องการความช่วยเหลืออยู่ ซึ่งเรากลับไม่รู้ตัวเอาซะเลย เริ่ม “เปลี่ยนแปลง” สู่ “เปลี่ยนแปรง” เพราะฉะนั้นการหันมาเปลี่ยนแปลงตัวเองทีละเล็ก ทีละน้อยย่อมส่งผลดีต่อตัวเราเสมอ เริ่มจากสิ่งที่ต้องทำทุกวันอย่างการแปรงฟัน ทุกคนรู้มั้ย ? จากการสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากแห่งชาติ พบว่ามากกว่า 60% ของผู้ใหญ่มีปัญหาโรคเหงือกอักเสบ โดยสาเหตุหลักมาจากการไม่ยอมเปลี่ยนแปรงสีฟันไงล่ะ ถ้าหากใครไม่เชื่อมาลองคิดตามกันดูนะ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเราใช้แปรงสีฟันเสื่อมสภาพไปเรื่อย ๆ จาก 1 วัน สู่ 10 ไปจนสู่ 100 วัน แน่นอนว่าประสิทธิภาพขจัดสิ่งสกปรกก็ต้องลดลงไปตาม ๆ กัน แค่คิดก็เริ่มเห็นภาพกันแล้วใช่มั้ยล่ะ… Mango Zero เลยขอพาทุกคนไปเห็นภาพชัด ๆ จัดเต็มสองตา! เมื่อแปรงอันเดิมที่ใช้อยู่ทุกวันเริ่มไม่ใช่ ถึงเวลาหรือยังที่เราต้องหันมา “เปลี่ยนแปรง” ? ถ้าเราต้องเปลี่ยนแปรงสีฟัน.. เชื่อว่าคำถามต่อมาที่หลายคนคงสงสัยกันก็คือ แล้วควรเปลี่ยนแปรงสีฟันเมื่อไหร่ ? เบื้องต้นการดูแลสุขอนามัยในช่องปากที่ดีทันตแพทย์แนะนำให้เปลี่ยนแปรงสีฟันทุก ๆ 3 เดือน เพราะช่วงเวลานี้ขนแปรงจะเริ่มแตกหัก บาน และมีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดฟันน้อยลง ซึ่งเชื้อโรคก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่ง หลังจากเราแปรงฟันเสร็จเหล่าแบคทีเรียและเชื้อราต่าง ๆ ก็สามารถแทรกซึมเข้าไปในขนแปรงสีฟันได้เช่นกัน อิงจากงานวิจัยมหาวิทยาลัยของอังกฤษเมื่อปี 2012 ได้ออกมาเผยข้อมูลว่า “ในแปรงสีฟันนั้นมีแบคทีเรียมากถึง 10 ล้านตัวเลยทีเดียว” ยิ่งมีแบคทีเรียเยอะมากมายขนาดนี้ ก็ยิ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพไม่น้อย งั้นลองไปดูกันว่าปัญหาที่จะตามมาจากการใช้แปรงสีฟันอันเดิมนั้นมีอะไรกันบ้าง เกิดปัญหาเรื่องของกลิ่นปาก ฟันเปลี่ยนสีไม่ขาวสะอาดเหมือนเดิม แม้ว่าจะแปรงฟันอย่างสม่ำเสมอ มีคราบพลัคเกาะแน่นบนผิวฟันเพิ่มขึ้น สังเกตได้จากหลังแปรงฟันยังรู้สึกเหมือนมีคราบเหนียว ๆ ลื่น ๆ ติดอยู่บนฟัน ทำให้มีเศษอาหารเล็ก ๆ เกาะตามซอกฟันส่งผลให้เชื้อโรคเติบโตได้ง่าย และเป็นที่มาของอาการฟันผุ เหงือกอักเสบ บวมแดง หรือมีเลือดออกระหว่างแปรงฟัน เพราะฉะนั้นการเปลี่ยนแปรงสีฟันใหม่จะช่วยให้เราสามารถแปรงได้อย่างลงลึกเข้าถึงทุกซอกทุกมุมมากขึ้น โดยเฉพาะแปรงสีฟันที่ขนแปรงมีความนุ่ม ยืดหยุ่น และเป็นมิตรต่อช่องปากอย่าง SYSTEMA รุ่น Soft & Slim ด้วยการผลิตขนแปรงจากวัสดุชนิดพิเศษ PBT (Polybutylene Terephthalate) ทำให้มีความยืดหยุ่น ทนทาน และคืนรูปได้ดีกว่าขนแปรงไนลอนทั่วไป จึงสามารถเข้าซอกซอนทำความสะอาดได้ลึกถึงร่องเหงือก แถมไม่ระคายเคืองต่อช่องปากอีกด้วย โดย SYSTEMA ก็มีระดับความนุ่มของขนแปรงให้เลือกถึง 2 แบบด้วยกันคือ นุ่มมาตรฐาน (Standard Soft) และนุ่มพิเศษ (Super Soft) ถ้ากลัวสับสนวิธีสังเกตก็ง่าย ๆ ดูที่หัวแผงแปรง หากเป็นสีชมพูคือ รุ่น Standard Soft แต่ถ้าเป็นสีเหลืองคือ รุ่น Super Soft นั่นเอง เมื่อเรามีแปรงสีฟันใหม่ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมแล้ว แน่นอนว่าพอเราได้ใช้ก็ย่อมส่งผลดีต่อสุขภาพช่องปากเรามากมาย ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อแบคทีเรีย สามารถกำจัดคราบพลัค และหลีกเลี่ยงการสะสมของคราบหินปูนได้ แปรงฟันได้สะอาดเข้าถึงทุกซอกทุกมุมมากขึ้น แปรงใหม่จะมีขนที่นุ่มไม่ระคายเคืองต่อช่องปาก ช่วยให้หันมาใส่ใจสุขภาพและรักตัวเองมากขึ้น แบรนด์ SYSTEMA ใส่ใจเรื่องสุขภาพช่องปากของคนไทย อยากให้ทุกคนมีสุขภาพช่องปากที่ดี จึงจัดกิจกรรม #วันเปลี่ยนแปรง กิจกรรมแจกแปรงสีฟันฟรี 10,000 ด้าม เรียกได้ว่าแจกไม่อั้น! เพื่ออยากให้ทุกคนได้เปลี่ยนแปรง มีแปรงสีฟันที่ดีในการทำความสะอาดช่องปากเพื่อชีวิตที่ดีกว่า โดยกิจกรรมจัดในวันที่ 5 มีนาคม 2566 นี้ วันเดียวเท่านั้น! ผ่าน Line Official ที่ @LionFamily หรือคลิก https://web.holistica.live/l/3W5DzK_Ju/v แล้วทางแบรนด์จะจัดส่งสินค้าให้ตามที่อยู่ที่ได้กรอกข้อมูลไว้ งานนี้ใครที่สนใจอยากได้แปรง SYSTEMA ไปทดลอง ก็ต้องเปิดสกิลอัพเวลมือไวรีบลงทะเบียนกันด่วน ๆ เลยน้า เพราะกิจกรรมนี้จัดแค่วันเดียวเท่านั้น! ที่มา : beautyseefirst, caredental, wellandgood
